Daily View

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐได้รายงานเงินเฟ้อทั่วไปประจำเดือน ธ.ค.21 ที่ +7%YoY +0.5%MoM ถือว่าใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ไส้ในเป็นแรงหนุนจากราคาพลังงาน +29%YoY น้ำมันเบนซิน +49.6%YoY น้ำมันเตา +41%YoY ซึ่งจะเห็นว่าหลักๆแล้วยังมาจากราคาพลังงาน ดังนั้นหากเริ่มเข้าสู่ช่วงกลางปี 22 อัตราการเติบโตของเงินเฟ้อควรจะเห็นทิศทางชะลอตัวลงจากฐานเริ่มสูงในปี 21 ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +5.5%YoY +0.6%MoM ใกล้เคียงตลาดคาด ใส้ในเป็นแรงหนุนจากรถมือสองและรถบรรทถุก +37%YoY รถยนต์ใหม่ +11.8%YoY ภายหลัง จากทราบปัจจัยดังกล่าว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปี ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับตลาดหุ้นทั้ง Dow Jones , S&P500 ที่ปิดบวกได้ อาจตีความได้ว่าตลาดเริ่มผ่อนคลายกับประเด็นเงินเฟ้อได้ในระดับนึง โดยคืนนี้ติดตามอีกตัวเลขกับ PPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) Bloomberg คาดที่ +0.4%MoM หากต่ำกว่าคาด หรือทรงตัวได้ จะยิ่งทำให้ตลาดผ่อนคลายมากขึ้นกับเงินเฟ้อ ส่วนในประเทศ เริ่มมีกระแสพูดคุยมากขึ้นถึงเรื่องที่ COVID-19 จะเริ่มเป็นโรคประจำถิ่น เนื่องจากปัจจุบันได้เข้าสู่ 3 ข้อที่ทางกระทรวงสาธารณสขุประเมินไว้ (1) เชื้อโรคมีความแรงน้อยลง ซึ่งหากพิจารณาจาก Omicron ก็เริ่มเข้าข่าย เนื่องจากการเสียชีวิตค่อนข้างต่ำ และเป็นกันทั่วโลก (2) ประชาชนมีภูมิคุ้มกันต่อโลกมากขึ้น หากพิจารณาเชิง Vaccine ก็จะพบว่าปัจจุบันครอบคลุมประชากรไทยแล้วในเข็มแรกกว่า 71.4% และเข็มสอง 64.9% และสุดท้าย (3) ระบบบริหารจัดการดูแลรักษามีประสิทธิภาพ

SET INDEX วันนี้ประเมินกลับมาแกว่งในกรอบ 1670 – 1684 ชะลอตัวบ้าง หลัง 2 วันที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นมาราว 1.2% ตอบรับต่อสถานการณ์ COVID-19 ที่ดูไปในทิศทางคลี่คลาย ประกอบกับตลาดโลกก็ได้คลายกังวลกับเงินเฟ้อระดับนึง เชิงกลยุทธ์การลงทุน สำหรับการสะสมยังเน้น Laggard เช่นเดิม อาทิ (BEM BJC CPALL M MAJOR MINT SHR) รวมถึงกลุ่ม Bank (BBL KBANK) เชิง Trading ยังแนะหุ้นมีปัจจัยบวก อาทิ น้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP)

Stock Pick

EPG (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 15 บาท) คาดกำไรปกติ 3QFY22 (ต.ค.-ธ.ค.) ที่ 400 ล้านบาท (+9%QoQ -12%YoY) การเติบโต QoQ มาจากการฟื้นตัวของยอดขายฉนวนกันความร้อน หลังปรับราคาขายขึ้นบวกกับข้อ จำกัดด้านโลจิสติกส์ในสหรัฐฯที่ผ่อนคลายลง และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคในไทยท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3

PTTEP (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 146 บาท) คาดกำไรสุทธิ 4Q21 ที่แข็งแกร่ง 9.7 พันล้านบาท (+283% YoY, +2% QoQ) หากไม่รวมขาดทุนการด้อยค่าสินทรัพย์ US$200m จากโครงการโมซัมบิกและเยตากุน และกำไรการบันทึกกลับค่าใช้จ่ายการเลิกดำเนินงาน US$100m จากโครงการบงกช ก็คาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 1.32 หมื่นล้านบาท (+162%YoY, +20%QoQ)

- Advertisement -