ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป ฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯเป็นไปตามคาด

ตลาดต่างประเทศ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อนหุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุและสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวขึ้น หลังรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ(CPI) เดือนธ.ค.21 ออกมาที่ระดับ 7.0% YoY และ 0.5% MoM เป็นไปตามตลาดคาด โดยหมวดพลังงาน, ค่าเช่าและราคารถยนต์มือสองยังเป็นหมวดหลักที่ดันเงินเฟ้อขึ้นในเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะรถยนต์มือสองปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 40% YoY ติดตามการประชุม Fed ปลายเดือนนี้ (26 ม.ค.) หากไม่ได้มีท่าที Hawkish เพิ่มเติมคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯจะเริ่มฟื้นตัว โดยปัจจัยสนับสนุนหลักจะมาจากการรายงานผลประกอบการ 4Q21 ที่กลุ่มการเงินจะเริ่มทยอยรายงานในสุดสัปดาห์นี้

ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวบวกขึ้นได้ดีเมื่อวาน หลังเผยดัชนี CPI และ PPI ชะลอตัวในเดือนธ.ค. ส่งผลให้ PBOC ไม่มีอุปสรรคในการดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อเนื่องเพื่อพยุงเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ทั้งนี้สถาณการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดของจีนอาจทำให้เศรษฐกิจจีนยังชะลอตัวต่อในระยะสั้น แต่เรายังคงมองว่าความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติในจีนหรือเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างรุนแรงไม่น่าจะเกิดขึ้น

สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (CPCA) รายงานยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศจีนปรับตัวขึ้น 4.4% แตะ 20.15 ล้านคันในปี 2564 จากอุปสงค์อันแข็งแกร่งในกลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) หนุนการขยายตัวของตลาดรถยนต์อย่างต่อเนื่อง  ถึงแม้การลดเงินอุดหนุนสำหรับซื้อรถยนต์ NEV อาจกระทบต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค แต่ยอดขายกลับได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและยังคงมียอดคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาที่ผลิตในจีนอยู่ที่ 70,847 คันในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขรายเดือนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่เทสลาเริ่มการผลิตที่โรงงานในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2562 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในเดือนธ.ค. 2564 ซึ่งรวมถึงยอดการส่งออก 245 คันนั้น สูงเกือบ 3 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. 2563 และสูงกว่ายอดของเดือนพ.ย. 34% อย่างไรก็ตาม แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของจีนยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดในประเทศมากที่สุด ซึ่งรวมถึงแบรนด์ BYD และ Wuling โดยเทสลาเป็นแบรนด์จากต่างประเทศที่ก้าวขึ้นติดอันดับท็อป 10 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมในจีน ทั้งนี้เรามองว่าการเติบโตของรถยนต์ EV ทั่วโลกจะยังดีต่อเนื่องในปีนี้ โดยเฉพาะหากปัญหาขาดแคลนชิปคลี่คลาย ด้วยกำลังซื้อผู้บริโภคที่ยังแข็งแกร่งและการเริ่มกลับมาเปิดเมืองในหลายประเทศคาดจะช่วยสนับสนุนความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น

มุมมองตลาดหุ้น SET คาด 1675-80 หุ้นแนะนำ STEC

STEC (ราคาพื้นฐาน 21.47 บาท). เราคาดบริษัทจะได้ประโยชน์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่กำลังจะมีขึ้นในปีนี้ ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นหลังโครงการอัตรากำไรตำอย่างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว.

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย ตัวเลข Loan growth ของจีนเดือน ธ.ค. คาด +11.7% YoY ตัวเลขปริมาณเงิน M2 ของจีนเดือน ธ.ค. คาด +8.7% YoY ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ รายสัปดาห์และถ้อยแถลงของ Fed Brainard

วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของจีนเดือน ธ.ค. คาด +20.0% YoY และ +25.9% YoY ตามลำดับ ตัวเลข Retail sales ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด flat MoM ตัวเลข Industrial production ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +0.3% MoM

- Advertisement -