บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

SOMBOON ADVANCE TECHNOLOGY คาด 4Q64 สะดุด..แต่จะกลับมาดีในปี 65

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +16%

Close Jan 12, 2022 Price (THB) 24.20

12M Target (THB) 28.00

Previous Target (THB) 28.00

What’s new?

  • คาดกาไร 4Q64 ชะลอตัว QoQ และ YoY จากต้นทุนวัตถุดิบท่ีเพิ่มขึ้น และมีค่าใช้จ่ายพิเศษปรับโครงสร้างองค์กร เราคาดว่าผลประกอบการจะเร่ิมฟื้นตัวใน 1Q65 หลังจากบริษัทเร่ิมมีการเจรจาปรับขึ้นราคาวัตถุดิบกับลูกค้า
  • ปี 2565 เราคาดกำไรจะเติบโต 17% YoY ตามยอดผลิตท่ีฟื้นตัวตามอุตสาหกรรม และประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีขึ้น

Our View

  • เรามองว่าหุ้น SAT น่าสนใจลงทุน ด้วยแนวโน้มผลประกอบการปี 2565 ท่ีคาดว่าฟื้นตัวโดดเด่นกว่าอุตสาหกรรม
  • เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” เราให้มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ท่ี 28.00 บาท อิง PE เฉลี่ย 5 ปี ท่ี 10.7x Upside 16% จากราคาปัจจุบัน และคาด Yield จากปันผลปีนี้ที่ 5%

คาดกำไร 4Q64 สะดุดจากต้นทุนวัตถุดิบ และค่าใช้จ่ายพิเศษ

เราคาดกำไรสุทธิใน 4Q64 ที่ 177 ล้านบาท -18% QoQ, -26% YoY หากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการปรับโครงสร้างองค์กร ได้แก่ ค่าโอนที่ดินและค่าที่ปรึกษา กำไรปกติจะอยู่ที่ 227 ล้านบาท +6% QoQ แต่ -6% YoY ผลประกอบการปรับเพิ่มขึ้น QoQ ตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ใน 4Q64 ที่เพิ่มขึ้นราว 20% QoQ ขณะที่เทียบ YoY กำไรชะลอตัวจากต้นทุนเหล็กที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงจาก 4Q63 ที่ 20.7% เหลือ 17.4%

แม้กำไร 4Q64 จะชะลอตัว แต่ภาพรวมทั้งปีคาดผลประกอบการยังคงเป็นไปตามท่ีเราประมาณการท่ี 950 ล้านบาท +156% YoY เนื่องจากผลประกอบการงวด 9M64 ท่ีฟื้นตัวดีตามอุตสาหกรรม ซึ่งเราอิงสมมติฐานยอดผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมในปี 2564 ปรับเพิ่ม 15% YoY เป็น 1.65 ล้านคัน คำสั่งซื้อจากลูกค้าคูโบต้าท่ีคาดเพิ่ม 12% YoY และรับผลบวกจากออเดอร์ส่งออกไปยังอเมริกาเต็มปี ส่งผลให้รายได้เติบโต 41% YoY เป็น 8,348 ล้านบาท ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น นอกจากผลของขนาดรายได้ที่เพิ่มขึ้น ยังรับผลบวกเต็มปีจากการปรับปรุงระบบการผลิตและควบคุมต้นทุนในปีก่อน

คาดปี 2565 ฟื้นตัวเด่นกว่าอุตสาหกรรม

คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการใน 1Q65 จะพลิกฟื้น QoQ และ YoY เนื่องจากบริษัทเริ่มมีการปรับขึ้นราคาสินค้าตามราคาวัตถุดิบท่ีเพิ่มขึ้นกับลูกค้า ทำให้อัตรากำไรจะเริ่มปรับสู่ระดับปกติ ขณะที่ภาพรวมปี 2565 เราคาดกำไรเติบโต 17%YoY เป็น 1,115 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเติบโตเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มท่ีคาดเติบโต 14% โดยยอดขายคาดเติบโต 6%YoY เป็น 9,267 ล้านบาท บนสมมติฐานยอดผลิตรถยนต์ในปี 2565 ปรับเพิ่มขึ้น 7% YoY เป็น 1.77 ล้านคัน ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งคาดยอดขายรถยนต์ในประเทศจะกลับมาเป็นบวก และตลาดส่งออกท่ีคาดว่าจะเติบโตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก ท่ีคาดว่าจะบรรเทาความรุนแรงลง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ขาดแคลนชิพจะคลี่คลาย โดย SAT ได้รับคำสั่งซื้อใหม่ ราว 400 -500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในปี 2565 จะรับรู้รายได้ราว 300 ล้านบาท และในปี 2566 จะรับรู้รายได้เต็มปี ขณะท่ีประสิทธิภาพในการทำกำไรคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นจาก 20.7% เป็น 21.2% ตามรายได้ที่เติบโต และการปรับขึ้นราคาตั้งแต่ช่วงต้นปี

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ที่คาดว่าฟื้นตัวโดดเด่นกว่าอุตสาหกรรม เราคงมูลค่าพื้น ฐานในปี 2565 ที่ 28.00 บาท อิง PE เฉลี่ย 5 ปี ท่ี 10.7x เหลือ Upside 16% จากราคาปัจจุบัน และคาด Yield จากปันผลปีนี้ที่ 5% อิงสมมติฐาน Dividend Payout 50%

- Advertisement -