บล.คันทรี่ กรุ๊ป:

DOHOME: คาดกำไร 4Q21 โตทั้ง YoY และ QoQ

ผลประกอบการระยะสั้นชะลอตัว แต่คาดเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 28.0 บาท อิงจาก 35xPE’22E หรือใกล้ค่าเฉลี่ยผู้เล่นรายใหญ่สุดด้านสินค้าตกแต่งบ้านในไทย

  • คาดกำไรสุทธิ 4Q21 ท่ี 420 ล้านบาท (+95%YoY, +23%QoQ) แรงหนุนในเชิง YoY มาจาก 1) อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่แข็งแกร่งระดับ +39%YoY และ 2) การเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จากอำนาจการต่อรองกับคู่ค้าที่สูงขึ้น กลยุทธ์การใช้ศูนย์กระจายสินค้าเป็นท่าเปลี่ยนถ่ายสินค้า (DC cross-dock) และอัตรากำไรในสินค้าจำพวกเหล็กท่ีสูงข้ึน คิดเป็นสัดส่วนราว 25% ของยอดขายรวม
  • คาดกำไร 1H22 จะชะลอลงเล็กน้อย YoY จาก 1) อัตรากำไรในกลุ่มสินค้าเหล็กท่ีลดลง ซึ่งไปฉุด GPM โดยรวมลงสู่ประมาณ 19% จาก 21.7%-22.7% ใน 1H21 และ 2) ค่าใช้จ่ายการขยายสาขาใหม่ท่ีสูงข้ึน ซึ่งไม่สามารถชดเชยได้ด้วยยอดขายท่ีโตขึ้น (SSSG โต 28%-30% QTD แต่ไม่คิดว่าจะยืนระดับได้ทั้งไตรมาส) แต่คาดว่ากาไรจะกลับมาโต YoY ใน 3Q22 จาก SSSG ที่แข็งแกร่ง การขยายสาขาใหม่ และผลกระทบในวงแคบจากอัตรากำไรกลุ่มสินค้าเหล็กท่ีลดลง

พรีวิวกําไร

  • คาดกำไรสุทธิ 4Q21 ที่ 420 ล้านบาท (+95%YoY, +23%QoQ)
  • แรงหนุนในเชิง YoY มาจาก 1) SSSG ที่แข็งแกร่งระดับ +39%YoY และ 2) GPM ที่โตขึ้นจากอำนาจการต่อรองกับคู่ค้าที่สูงขึ้น กลยุทธ์ DC cross-dock และอัตรากำไรในสินค้าจำพวกเหล็กที่สูงขึ้นคิดเป็นสัดส่วนราว 25% ของยอดขายรวม
  • GPM ที่ลดลง QoQ เป็นผลจาก ส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้นของผลิตภัณฑ์อัตรากำไรต่ำ กล่าวคือในช่วง 4Q21 บริษัทมีส่วนแบ่งยอดขายวัสดุก่อสร้าง 49% ของยอดขายรวม เพิ่มจากระดับปกติที่ 43%-45% สินค้าเหล็กคิดเป็น 30% ของยอดขายรวม เพิ่มจากปกติที่ 25%

อัตรากำไรที่อ่อนแอจะฉุดกําไร 1H22 ลง

คาดกำไร 1H22 จะลดลงเล็กน้อย YoY จาก 1) อัตรากำไรในกลุ่มสินค้าเหล็กที่ลดลง ซึ่งไปฉุด GPM โดยรวมลงสู่ประมาณ 19% จาก 21.7%-22.7% ใน 1H21 และ 2) ค่าใช้จ่ายการขยายสาขาใหม่ที่สูงขึ้น ซึ่งไม่สามารถชดเชยได้ด้วยยอดขายที่โตขึ้น (SSSG โต 28%-30% QTD แต่ไม่คิดว่าจะยืนระดับได้ทั้งไตรมาส) แต่คาดว่ากำไรจะกลับมาโต YoY ใน 3Q22 จาก SSSG ที่แข็งแกร่ง การขยายสาขาใหม่ และผลกระทบในวงแคบจากอัตรากำไรกลุ่มสินค้าเหล็กที่ลดลง

Revenue Breakdown

บริษัทดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ซึ่งมีสินค้าทั้งแบบภายใต้ตราสินค้าของกลุ่มบริษัท (คิดเป็น 16.5% ของรายได้รวม) และภายใต้ตราสินค้าอื่น (คิดเป็น 83.5% ของรายได้รวม) สามารถแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้:

  • วัสดุก่อสร้าง (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 44%): ประกอบด้วยเหล็กแท่งเหล็ก สี เคมีภัณฑ์ ไม้ ซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ

วัสดุซ่อมแซม (คิดเป็นส่วนแบ่งรายได้ 38%): ประกอบด้วย เครื่องมือช่าง เครื่องมือทางการเกษตร อุปกรณ์ประปา อุปกรณ์ไฟฟ้า สุขภัณฑ์ เครื่องครัว ประตู และหน้าต่าง

วัสดุตกแต่ง (คิดเป็นส่วนแบ่งรายได้ 18%): ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์บ้าน เครื่องเขียน โคมไฟตกแต่ง สินค้าอุปโภคบริโภค เตียง ร้านขายของที่ระลึก และของตกแต่งบ้าน

- Advertisement -