Daily View
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐได้รายงานดัชนีราคาผู้ผลิตที่ +0.2%MoM ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +0.4%MoM พร้อมกับผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานท่ี 2.3 แสนตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาดท่ี 1.99 แสนตำแหน่ง ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ทำให้ตลาดน่าจะผ่อนคลายมากขึ้นกับประเด็นด้านเงินเฟ้อ สอดคล้องกับด้านทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปี ท่ีเร่ิมชะลอความร้อนแรงในการปรับขึ้นด้วยการแกว่งออกข้าง อย่างไรก็ตาม กลับพบว่า Dow Jones ปิดตลาดปรับฐาน 0.49% เนื่องจากเจ้าหน้าที่ FED หลายท่านได้ออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนให้ FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ มี.ค. หากอิงความเห็นจาก Bloomberg Consensus พบว่าให้โอกาสราว 93% ถูกปรับขึ้นมาจากต้นปี 22 ที่ 68% ดังนั้น หมายความว่าปัจจุบันตลาดค่อนข้างจะเชื่อไปแล้วว่า FED จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมี.ค. เราจึงมองว่าการปรับฐานเมื่อคืนเป็นเพียงแรงทำกำไรมากกว่า มิใช่กังวลจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ FED แต่อย่างใด ขณะที่เช้านี้ทิศทางตลาดหุ้นเอเชียอย่าง Nikkei แกว่งในแดนลบราว 1.4% คาดว่ารับแรงกดดันมาจาก Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านจึงมีโอกาสที่ SET INDEX วันนี้จะกลับมาเคลื่อนไหวแดนลบ มองกรอบ 1668–1678 โดยคืนนี้ มีปัจจัยติดตาม คือ ยอดค้าปลีกสหรัฐ Bloomberg คาดการณ์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน หากเป็นไปตามนี้หรือต่ำกว่าคาดจะยิ่งผ่อนคลายมากขึ้นกับเงินเฟ้อ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ทยอยสะสมได้แม้ Valuation SET INDEX อาจจะไม่ได้ถูกเท่าใดนัก แต่เน้น Laggard รวมถึงมี Upside จากเป้าหมาย อาทิ (BEMBJC CPALL M MAJOR MINT SHR) เชิง Trading วันนี้กลับมามองหาหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวก อาทิ NER TACC XO
Stock Pick
TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.25 บาท) ประเมินรายได้ 4Q21 เติบโตได้ประมาณ 5%YoY,8%QoQ และทำให้รายได้ทั้งปีกลับมาเติบโตได้ 0.6%YoY หลังจากในช่วง 9M21 รายได้ลดลง 0.8%YoY และคาดกำไรทั้งปีที่ 210 ลบ. (+ 11%YoY) ส่วนปี 22 ประเมินรายได้และกำไรสุทธิที่ 1,541 ลบ. (+16%YoY) และ 225 ลบ. (+7%YoY) ตามลำดับ
NER (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 8.7 บาท) แนวโน้ม 4Q21 ความต้องการจากลูกค้ายังมาก ทำให้ปริมาณขายน่าจะรักษาระดับ 130,000 ตัน รวมถึงราคายังยืนได้ ทำให้คาดกำไรมีลุ้น 500-600 ลบ.
