Daily Focus Earnings and Value Play

ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index พักตัวลงระยะสั้นตามคาด ปิดลบ 7.39 จุด ณ สิ้นวัน โดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และ ICT ปรับตัวลงจากนโยบายการเงิน FED ที่จะตึงตัวขึ้นเร็วในปีนี้ ส่งผลให้ทั้งสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 2 พันลบ. และ 1.1 พันลบ. ตามลำดับ (ส่วนสถานะใน SET50 Index Futures เบาบางไม่มีนัยยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index แกว่ง Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,667-1,680 จุด แม้บรรยากาศการลงทุนโดยรวมจะยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ชัดเจนเข้ามาหนุน แต่กลุ่มพลังงานคาดว่ายังคงนำตลาด จากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งแรงต่อเนื่อง โดยล่าสุด WTI แตะ US$ 84 ต่อบาร์เรล ขณะที่โฟกัสหลักของตลาดวันนี้ คือ ตัวเลข GDP 4Q21 ของจีน ซึ่งตลาดคาด +1.1% Q-Q, +3.6% Y-Y ส่วนในประเทศจับตาการประกาศผลประกอบการ 4Q21 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งเบื้องต้นคาดไม่เป็นปัจจัยกดดัน หลัง TISCO ประกาศแล้วดีกว่าคาด กลยุทธ์ยังแนะนำ “ถือลงทุน” ต่อเนื่อง ส่วนที่สะสมระดับ 1,600 จุดหรือต่ำกว่า ส่วนระยะสั้นยังแนะนำลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และกลุ่ม Value Play มี PER ไม่สูง รวมถึงหุ้นที่คาดประกาศกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง

กลยุทธ์: เลือกลงทุนโดยเน้นหุ้น Value และหุ้นที่คาดกำไร 4Q21 แข็งแกร่งหุ้น

เด่นเดือน ม.ค. : CK, EA, HMPRO, KBANK, ORI

หุ้นเด่นวันนี้: SC

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท
  • ระยะสั้นคาดกำไร 4Q21 เร่งขึ้นทั้ง +30% Q-Q, +50% Y-Y และเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี จาก Backlog 5.2 พันลบ. และคาดทั้งปีรายได้ทะลุเป้าที่ 1.9 หมื่นลบ. เราคาดกำไรปี 2021 +9% Y-Y
  • ปี 2022 จะเป็นปีที่ดีจากการเริ่มรับรู้คอนโดใหม่ 3 แห่ง และแผนเปิดโครงการเชิงรุกรวม 2 หมื่นลบ. เราคาดกำไรปี 2022 +10% Y-Y จุดเด่นคือ Valuation ถูก โดยเทรด PER และ PBV ต่ำ เพียง 6 เท่า และ 0.7 เท่า และจ่ายปันผลปีละครั้ง Yield 6%
  • แนวรับ 3.64-3.60 บาทแนวต้าน 3.70 // 3.80-3.90 บาท

Fund Flow: เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาค แต่ชะลอตัวลงเหลือ US$ 224 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$ 510 ล้าน แต่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$ 297 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสานไหลเข้าอินโดนีเซียและเวียดนาม แต่ไหลออกจากไทยสูงสุด US$ 32 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้คาดยังค่อนไปในทางไหลเข้า แต่ปริมาณไม่หนาแน่นนัก เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ชัดเจน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลุ่มธนาคาร จะประกาศกำไรสัปดาห์นี้ เราคาดกำไร 4Q21 -10% Q-Q, +12% Y-Y โดยมีค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เร่งขึ้นตามฤดูกาล แต่การดำเนินงานหลังทั้ง NIM Fee Income ดีขึ้น รวมถึงสำรองที่ลดลง BBL คาดว่าจะมีการเติบโตสูงสุดจากฐานต่ำปีก่อน ส่วน TISCO KKP คาดโตได้ทั้ง Q-Q และ Y-Y เราคาดกำไรปี 2021 +26% Y-Y แนวโน้มกำไรปี 2022 คาดยังเร่งตัวขึ้น +11% Y-Y ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ยังคงน้ำหนักการลงทุน Overweight และมีแนวโน้มถูก Rerate PER ขึ้นจากปัจจุบันที่ยังค่อนข้างต่ำ Top Pick คือ SCB และ TTB (Source: FSSIA)

(+) กลุ่มไก่ วันนี้กรมการค้าภายในจะเจรจาราคาไก่กับผู้เลี้ยงอีกรอบ หลังประกาศตรึงราคาไก่หน้าฟาร์ม 33.5 บาท/กก. ตั้งแต่ 10 ม.ค. ทำให้ผู้เลี้ยงรายกลางถึงเล็กขาดทุน โดยต้นทุนการเลี้ยงอยู่ที่ 37-38 บาท/กก. ล่าสุดราคาไก่หน้าฟาร์มอยู่ที่ 39-41 บาท/กก. จึงต้องการให้รัฐเข้ามาดูแลและพิจารณาอีกครั้ง ขณะที่ราคาหมูล่าสุดยังปรับขึ้นต่อเป็น 115-116 บาท/กก. จากวีคก่อนที่ 110 บาท/กก. แนะนำ “เก็งกำไร” GFPT (ราคาเป้าหมาย 14 บาท) และ TFG (ราคาเป้าหมาย 6 บาท)

(+) TISCO ประกาศกำไร 4Q21 +15% Q-Q, +9% Y-Y ดีกว่าคาด 8% จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่แข็งแกร่ง และ NPL ที่ลดลง หนุนทั้งปี 2021 +12% Y-Y ส่วนการประชุมนักวิเคราะห์โทนเป็นกลาง และเป้าหมายทางการเงินสอดคล้องกับประมาณการปัจจุบันของเรา โดยเราคาดกำไรปี 2022 +4% Y-Y เราชอบ TISCO จากคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง และ Dividend Yield ที่สูง 7% ในปี 2021 และจะเร่งขึ้นเป็นราว 8% ในปี 2022-2023 ยังคงราคาเป้าหมาย 110 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) LH มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2022 มูลค่าเกือบ 3 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 50% ขณะที่เป้า Presales อยู่ที่ 3.1 หมื่นลบ. + 8% Y-Y หนุนจากทั้งแนวราบและคอนโด ขณะที่ธุรกิจโรงแรมและห้างสรรพสินค้าทยอยฟื้นตัวตามการ Reopening ส่วนเป้า Gross Margin ของบริษัทที่คาด Flat Y-Y นั้น Conservative เกินไป และคาดว่ามีโอกาสเป็นไปตามสมมติฐานของเราที่คาดดีขึ้นเป็น 31.9% เราคาดกำไรปี 2022 +18% Y-Y และมี Upside กำไรพิเศษจากการขาย US Parc Asset ราว 1.2-1.3 พันลบ. ยังคราคาเป้าหมาย 10.20 บาทแนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 201.81 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 35,911.81 จุด หลังธนาคารสหรัฐขนาดใหญ่รายงานผลประกอบการ 4Q21 ที่อ่อนแอกว่าคาด รวมถึงยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือน ธ.ค. ปรับลง 1.9% ท่ามกลางนักวิเคราะห์คาดว่าทรงตัว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบกดดันจากแนวโน้มเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในยูโรโซน และคาดการณ์ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม ท่ามกลางติดตามจีนรายงาน GDP 4Q21 และตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ในเช้านี้

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.21 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 83.82 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันที่เกิดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,816.5 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 976.21 / +-

- Advertisement -