KS Daily View 26.01.2022 >>> IMF ปรับประมาณการ GDP โลกลง กังวลโควิดและเงินเฟ้อ/ นักลงทุนจับตาการประชุม Fed ขณะที่ความตึงเครียดในยูเครนยังกดดันการลงทุน/ SET คาด 1635-45 หุ้นแนะนำ DTAC
ตลาดต่างประเทศ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงผันผวนสูงต่อเนื่อง S&P500 -1.22% และ Nasdaq -2.28% นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นักลงทุนจับตาผลการประชุม FOMC ที่จะทราบท่าทีต่อนโยบายการเงินอย่างแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยรวมถึงการทำ QT ของ Fed ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปดัชนี Stoxx Europe 600 +0.71% ฟื้นตัวขึ้นบ้างหลังปรับตัวลงแรงในวันก่อน นักลงทุนติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างนาโต้และรัสเซียเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันการลงทุน
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หั่นคาดการณ์ GDP โลกปีนี้สู่ 4.4% ในปีนี้ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ 4.9% ในรายงานเดือนต.ค.ปีที่แล้ว โดยปัจจัยความกังวลโควิด, ภาวะคอขวดในห่วงโซ่อุปทานและเงินเฟ้อกดดันการเติบโตเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี IMF ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2566 สู่ระดับ 3.8% จากเดิมที่ระดับ 3.6% ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 4.0% ในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 5.2% โดยได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงิน ส่วนเศรษฐกิจจีนคาดว่าจะขยายตัว 4.8% ในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่ระดับ 5.6% โดยได้รับผลกระทบจากนโยบาย zero-Covid policy รวมทั้งภาวะตึงตัวทางการเงินโดยมีสาเหตุจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ไทยถูกปรับลดตัวเลขลงสู่ระดับ 4.1% ในปีนี้ จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 4.5% ทั้งนี้เรามองการที่ IMF ปรับคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกลง เป็นสัญญาณไม่ค่อยดีนักแสดงถึงสภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะเริ่มชะลอตัวลงกว่าคาด ขณะที่เงินเฟ้อสูงกว่าคาดและนโยบายการเงินที่เข้มงวดกว่าคาดจะกดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นและความผันผวนจะยังคงสูงต่อไป
ตลาดภายในประเทศ: มุมมองกลุ่มธนาคาร กำไรรวมของกลุ่มธนาคารไตรมาส 4/64 ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 15% จาก Opex และ ECL ยังคงสูง ทั้งนี้ผลประกอบการไตรมาส 4/64 ของ KKP แข็งแกร่งที่สุด ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาดในไตรมาส 4/64 ผู้บริหารธนาคารมองแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นในปี 2565 ในด้านการเติบโตและด้านคุณภาพสินทรัพย์ ดังนั้นเราคงมุมมอง “บวก” ต่อกลุ่มธนาคาร SCB ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเรา แต่เราตัด TTB ออกจากหุ้นเด่น และแทนที่ด้วย KKP แทน
มุมมองกลุ่มค้าปลีก เราคาดกำไรปกติรวมไตรมาส 4/64 ของผู้ค้าปลีกสินค้าจำเป็นที่ 6.9 พันลบ. (+104% QoQ และ -5.1% YoY) จากการคลายมาตรการล็อกดาวน์และส่วนแบ่งจาก Lotus ทั้งนี้โมเมนตัมการฟื้นตัวจะต่อเนื่องในไตรมาส 1/2565 จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและฐานที่ต่ำ SSSG MTD ของผู้ค้าปลีกทั้ง 3 ราย เราคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีก พร้อมแนะนำ “ซื้อ” BJC และ CPALL และเพิ่มคำแนะนำสำหรับ MAKRO เป็น “ซื้อ” จาก upside ที่เพิ่มขึ้น
มุมมองตลาดหุ้น SET คาด 1635-45 หุ้นแนะนำ DTAC
Top pick: DTAC (ราคาพื้นฐาน 51.18 บาท). คาดว่าราคาหุ้นจะได้ sentiment หนุนตามความคืบหน้าของการควบรวมกิจการกับ TRUE ทั้งนี้เราคาดหวังโอกาสบริษัทจ่ายเงินปันผลสูงกว่าคาดในครึ่งปีหลัง
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันพุธ ติดตาม ตัวเลข Wholesale Inventories ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +1.1% MoM ตัวเลข New Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด 0.72 ล้านยูนิต (-3.2% MoM) ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell หลังการประชุม FOMC
วันพฤหัสฯ ติดตาม ดัชนี GfK Consumer Confidence ของเยอรมันเดือน ก.พ. คาด -8 จุด (ลดลงจาก -6.8 จุด) ตัวเลข GDP Growth Rate QoQ ADV 4Q21 ของสหรัฐฯ คาด +5.4% ตัวเลข Durable Goods Order ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด -0.5% MoM ตัวเลข การขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +2.95 แสนคน และตัวเลข Pending Home sales ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +0.3% MoM
วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข GDP 4Q21 ของเยอรมันและสเปน คาด +1.9% YoY และ +4.4% YoY ตัวเลข Personal Income ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +0.5% MoM ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment ของสหรัฐฯเดือน ม.ค. คาด 68.6 จุด (-2.8% MoM) และดัชนี PCE Price Index ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +0.4% MoM และ +5.9% YoY
