Daily View

ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1630 – 1645 แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ล่าสุดสหรัฐได้สั่งการให้ทหารประมาณ 8,500 ราย เตรียมพร้อมเครื่องกำลังไปยุโรปเพื่อเตรียมเผชิญหน้ากับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม พบว่าตลาดหุ้น Dow Jones ยังกลับมาปิดบวกได้ และเครื่องมือในการชี้ถึงความเสี่ยง อาทิ VIX INDEX ปรับตัวลง พร้อมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปียังคงปรับ ตัวขึ้นต่อเนื่อง บ่งชี้ว่านักลงทุนยังมิได้กังวลมากนักกับความตึงเครียดระหว่างประเทศ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับตัวขึ้น 2.2% รับข่าวกำลังการผลิตน้ำมันอาจถูกกระทบ (รัสเซียผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 3 ของโลก) ดังนั้นทำให้ตลาดหุ้นไทยอาจได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการที่มีกลุ่มน้ำมัน (PTT PTTEP) คิดเป็น Mkt Cap อันดับ 1 ขององค์ประกอบ ส่วนปัจจัยที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญยังคงเป็นประชุม FED ที่จะทราบผลในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย หรืออย่างเป็นทางการช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย เบื้องต้นตลาดประเมินไว้ว่า FED จะส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 4 ครั้งในปีนี้ และเริ่มลดขนาดงบดุลกลางปี 22 หากเป็นไปตามนี้เชื่อว่าตลาดอาจถูกแรงซื้อกลับ เพราะได้ปรับฐานลงมารอแล้ว แต่หากไม่มีการพูดถึงการลดขนาดงบดุล มองตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสฟื้นแรง และตลาดหุ้นประเทศอื่นรวมถึงไทยอาจได้จิตวิทยาเชิงบวกบ้าง เชิงกลยุทธ์การลงทุน สำหรับนักลงทุนรับความเสี่ยงสูงอาจเปิดโอกาส Trading ได้ในระยะสั้น เนื่องจากมีโอกาสสูงที่หลังผลประชุมคาดหวังแรงซื้อกลับสูงกว่าแรงขาย เน้นหุ้นปรับฐานลงมาแรง อาทิ (HANA KCE) รวมถึงหุ้นใหญ่ที่มีปัจจัยบวก อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK) ทยอยสะสม ยังแนะ Laggard (BEM BJC CPALL M MAJOR MINT SHR) เพิ่มเติม (SCGP) หลังราคาปรับ ฐานลงมาจน Upside เปิด และมองว่าราคาหุ้นสะท้อน GPM ที่ลดลงไปแล้ว เนื่องจากราคาต้นทุนที่สูงขึ้น โดยคาดว่าระดับ GPM จะเริ่มทรงตัวได้ พร้อมประเมินกำไรปี 22 ขยายตัว 38.8%YoY

Stock Pick

SCGP (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 72 บาท) ประเมินภาพรวมกำไร 1Q22 ที่ยังแข็งแกร่ง QoQ จากราคากระดาษคราฟท์ที่แข็งแกร่ง หนุนจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ค่อย ๆ ปรับดีขึ้น และปัจจัยตามฤดูกาลในช่วงเทศกาลตรุษจีน พร้อมเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 72 บาท อิง 30XPE’22E คาดว่าราคาหุ้นที่ลดลงล่าสุดสะท้อนความกังวลเกี่ยวกับอัตรากำไรที่อ่อนแอใน 4Q21 ไปแล้ว

QH (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 2.66 บาท) คาดกาไรสุทธิ 4Q21 ที่ 522 ล้านบาท (-10%YoY, +99%QoQ) และเป็นไตรมาสที่สูงสุดในปี 21 จากการรับรู้รชายได้จากการขายบ้านที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจาก HMPRO ที่เพิ่มขึ้น

- Advertisement -