EE โชว์แผนการดำเนงานปี 65 ประกาศขึ้นแท่นผู้นำต้นน้ำกัญชง เร่งดันธุรกิจกลางและปลายน้ำออกสู่ตลาด เผยอยู่ระหว่างศึกษา รวมทั้งเจรจากับพันธมิตรหลายราย คาดเห็นความคืบหน้าได้ในเร็วๆ นี้ มั่นใจสามารถสร้างรายได้มหาศาลได้เฉกเช่นพืชเศรษฐกิจประเภทอื่น จากแนวโน้มความต้องการของตลาดที่เปิดกว้างขึ้น พร้อมเตรียมจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขาย EE-W1 จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วนการถือหุ้น
นายวรศักดิ์ เกรียงโกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ ตั้งมั่นเป็นผู้ดำเนินธุรกิจกัญชง กัญชา แบบครบวงจรที่มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทาง โดยตั้งแต่ปลายปี 2564 ได้เข้าลงทุนในผู้ประกอบการต้นน้ำของกัญชงดาวรุ่งคือ บริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด (CW) ซึ่งได้ “นางฟ้ากัญชา” นางสาวอุนารินทร์ กิจไพบูลทวี ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจมาร่วมงาน ทำให้บริษัทเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในระดับกลางน้ำและปลายน้ำได้อย่างรวดเร็ว แม้จะเพิ่งเริ่มรุกเข้าสู่วงการกัญชงก็ตาม
ทั้งนี้ EE ได้พัฒนาธุรกิจอย่างเข้มข้นขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว ตามแผนงาน Original ที่มุ่งมั่นเข้าลงทุนในธุรกิจกัญชง เริ่มจากการลงทุนใน แคนนาบิซ เวย์ ของนางฟ้ากัญชา และเดินเครื่องต่อสู่โปรเจกต์ CW2 ซึ่งอยู่ใน pipeline ศึกษาการเข้าลงทุนในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจกัญชง กัญชารายอื่นๆ ที่มีความพร้อม มีศักยภาพทางด้านผลิตผล บุคลากร และที่สำคัญมีออเดอร์พร้อม ซึ่งหมายความว่าจะเป็นโปรเจกต์ที่มีรายได้เข้ามาอย่างแน่นอน หากการศึกษามั่นใจว่าเป็นผลดีต่อบริษัท 100% จะนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเข้าลงทุน ขยายกิ่งก้านใบต้นกัญชงเพื่อดัน EE เป็นเบอร์ต้นของวงการ
ด้านการดำเนินธุรกิจกลางน้ำและปลายน้ำ บริษัทกำลังศึกษาเจรจากับพันธมิตรหลายราย ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการทั่วไปและบริษัทจดทะเบียน คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าได้ภายในไตรมาสที่ 2-3 ปี 2565 นี้ โดย EE พร้อมทำให้เห็นว่า ธุรกิจกัญชง กัญชา ที่บริษัทโดดเข้ามาดำเนินการอย่างเต็มตัว สามารถสร้างรายได้มหาศาลได้เฉกเช่นพืชเศรษฐกิจประเภทอื่นๆ และโตขึ้นอย่างมั่นคงในแต่ละปี จากแนวโน้มความต้องการของตลาดที่เปิดกว้างขึ้น อีกทั้งบริษัทยังมีเวลาเพียงพอต่อการพัฒนาขึ้นเป็นผู้นำในตลาดกัญชงของไทย จากกฎกระทรวงที่กำหนดมิให้นำเข้ากัญชงภายในระยะเวลา 5 ปี ดังนั้น จึงมีความมั่นใจมากต่อการแข่งขันที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ขณะเดียวกัน ยังเตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออกได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโปรเจกต์แรกของบริษัท CW มีฟาร์มเพาะปลูกแบบโรงเรือน Green House สำหรับปลูกกัญชงขนาด 9,000 ตร.ม. ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 36 ไร่ ตั้งอยู่ ณ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ในอนาคตพื้นที่โครงการจะพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ CBD Agro-Tech Center กำลังเพาะปลูกต้นกัญชงคุณภาพเต็มพื้นที่ เพื่อส่งจำหน่ายช่อดอกสู่กลุ่มลูกค้า และอยู่ระหว่างพื้นที่โดยรอบเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้อีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/65 ในวันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างน่าพอใจ รวมถึงการพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 1 (EE-W1) ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น
********