บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
PTT EXPLORATION & PRODUCTION กำไรแข็งแกร่งกว่าคาด
Action
TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +7.1%
Close Jan 27, 2022 Price (THB) 127.00
12M Target (THB) 136.00
Previous Target (THB) 135.00
What’s new?
- ประกาศงบ 4Q64 มีกำไรสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต QoQ และ YoY จากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น และปริมาณขายจากแหล่งปิโตรเลียมใหม่ในโอมาน – มาเลเซีย
- ภาพรวมกำไรถือว่าแข็งแกร่งกว่าคาด เติบโตได้แม้ถูกบันทึกค่าใช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์
- ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันปี 2565 – 2566 ขึ้นเป็น US$70-72/bbl สะท้อน Supply disruption ช่วงต้นปี, เงินเฟ้อระดับสูง, เหตุการณ์ในยูเครน
Our View
- ปรับกาไรปี 2565 – 2566 ขึ้น 1 – 7% สะท้อน สมมติฐานราคาน้ำมันใหม่ และแผนธุรกิจฉบับล่าสุด ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ 136.00 บาท
- แม้เรายังระมัดระวังต่อทิศทางราคาน้ำมันช่วง 2H65 แต่นักลงทุนสามารถเก็งกำไรเพื่อรับปัจจัยบวกระยะสั้น 1) ราคาน้ำมัน 1Q65 แข็งแกร่ง มีโอกาสเป็น Upside risk 2) ประกาศงบ 4Q64 ดีกว่าคาด พร้อมเงินปันผลงวด 2H64 Yield 2.4% 3) โมเมนตัมงบ 1Q65 จะแข็งแกร่งเติบโต YoY
รายงานกำไรดีกว่าคาด เติบโต QoQ YoY แม้ถูกด้อยค่าสินทรัพย์
ประกาศงบ 4Q64 มีกำไรสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท (+12% QoQ, +321% YoY) ดีกว่าที่เราและตลาดคาด สาเหตุหลักมาจากภาษีจ่ายน้อยกว่าคาด และอัตรากำไรดีกว่าคาด ไตรมาสนี้มีขาดทุนรายการพิเศษรวม 6.5 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการด้อยค่าสินทรัพย์โครงการโมซัมบิกแอเรีย 1 และโครงการเยตากุน หากนับเฉพาะกำไรปกติ (ตามรายงานของบริษัทฯ ) ทำได้ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตสูง +233% YoY จากการเข้าซื้อโครงการโอมานแปลง 61 และการเริ่มผลิตของแหล่งปิโตรเลียมในมาเลเซียแปลงเอช ทำให้ปริมาณขายสูงขึ้นเป็น 421 KBQED (+10% YoY) และราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น US$ 46.9/BOE (+27% YoY) จากราคาน้ำมันในตลาดที่สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 3Q64 แม้จะเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุงโครงการซอติก้า แต่กำไรปกติขยายตัว +55% QoQ จากปริมาณขาย +1% QoQ จากโครงการในมาเลเซียและราคาขาย +6% QoQ ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
ราคาน้ำมันต้นปีมีแนวโน้มดีกว่าคาด … ปรับกำไรปี 2565 2566 ขึ้น 1–7%
เรายังคงมุมมองระมัดระวังต่อราคาน้ำมันช่วง 2H65 เนื่องจากคาดว่าการเพิ่มขึ้นของอุปทานจาก OPEC+ และสหรัฐฯจะเร่งตัวสวนทางการเติบโตของอุปสงค์ที่ชะลอลงตามเศรษฐกิจโลก ทำให้ตลาดน้ำมันเริ่มเป็นอุปทานส่วนเกินช่วง 2H65 อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปี 2565 ราคาน้ำมันปรับตัวดีกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า และยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงในช่วง 1Q65 เพราะปัญหาการผลิตของหลายประเทศในตะวันออกกลาง, อัตราเงินเฟ้อสูง, อุปสงค์ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องหลัง Covid-19 คลายตัว และความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซียเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน จากเหตุผลข้างต้นเราปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ 2565-2566 ขึ้นเป็น US$ 70-72/bbl (เดิม US$ 65-67/bbl) แต่ปรับประมาณการปริมาณขายลง 3-5% ให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจฉบับใหม่ช่วงปลายปี ส่งผลให้คาดการณ์กำไรปี 2565-2566 เพิ่มขึ้น 1-7% เป็น 5.5 หมื่นล้านบาท (+42% YoY) และ 4.7 หมื่นล้านบาท (-14% YoY) ตามลำดับ
โมเมนตัมกำไร 1Q65 ดีต่อเนื่อง
แนวโน้มกำไร 1Q65 ยังอยู่ระดับสูง คาดเติบโต YoY หนุนจากราคาขายสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 436 KBOED ขณะที่บริษัทฯ ให้ Guideline ต้นทุนการผลิตว่าจะลดลงมาอยู่ในช่วง US$ 27-28/BOE อีกทั้ง 1Q มักจะเป็นไตรมาสที่ต้นทุนการผลิตอยู่ในระดับต่ำสุด
เก็งกำไรรับผลบวกทางตรงจากราคาน้ำมัน
จากการปรับประมาณการข้างต้น เราปรับราคาเหมาะสมเป็น 136.00 บาท (DCF WACC 9.2% เท่าเดิม) สำหรับการลงทุนระยะสั้นมองว่านักลงทุนสามารถเก็งกำไรรับปัจจัยบวก 1) ทิศทางราคาน้ำมัน 1Q65 แข็งแกร่งเป็นบวกโดยตรงต่อ PTTEP และมีโอกาสเป็น Upside ต่อสมมติฐานราคาน้ำมันของเราและตลาด (Sensitivity ทุก US$ 1/bbl มีผลต่อกำไร 830 ล้านบาท ราคาเหมาะสม 2.10 บาท) 2) ผลประกอบการ 4Q64 ออกมาดีกว่าคาด และมีเงินปันผลงวด 2H64 สูง 3.00 บาท/หุ้น (Yield 2.4%) ขึ้น XD วันที่ 10 ก.พ. และ 3) แนวโน้มงบ 1Q65 ยังอยู่ระดับสูงคาดเติบโต YoY