บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action

BUY 

TP upside (downside) +12%

Close Feb 07, 2022 Price (THB) 21.70

12M Target (THB) 24.20

Previous Target (THB) –

What’s new?

  • คาดกำไรสุทธิ 4Q64 พื้นเด่น +82% QoQ, +5% YoY จากยอดโอนที่ดินปรับเพิ่มขึ้น รับผลบวกจากการกลับมาเปิดประเทศ
  • เรามองว่าปี 2565 เข้าสู่ช่วงกำไรขาขึ้น กำไรฟื้นเด่น +56% YoY มีปัจจัยหนุนจากทั้งจากมาตรการดึงดูดนักลงทุน การย้ายฐานจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ และการเพิ่มกำลังการผลิต EV ในประเทศ
  • การลงทุนสร้างเมืองอัจฉริยะในลาว เราคาดว่าจะช่วยหนุนยอดขายที่ดินเพิ่มในปี 2566

Our View

  • เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ AMATA ที่มองว่าผ่านช่วงที่แย่ไปแล้ว คาดผลประกอบการจะพลิกฟื้นเติบโตโดดเด่นใน 4Q64 และเติบโตต่อเนื่องในปี 2565 – 2566 ทั้งผลบวกจากการเปิดประเทศ เศรษฐกิจที่ฟื้นตัว รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
  • เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 24.20 บาท

AMATA CORPORATION คาดกำไร 4Q64 พื้นเด่น ปี 65 เข้าสู่ช่วงขาขึ้น

คาดกำไรสุทธิ 4Q64 ฟื้นตัว QoQ และ YoY

เราคาดกำไร 4Q64 อยู่ที่ 417 ล้านบาท (+82% QoQ, +5% YoY) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ธุรกิจนิคม คาดยอดโอนที่ดินปรับเพิ่มขึ้นเป็น 163 ไร่ จาก 20 ไร่ ใน 3Q64 และ 80 ไร่ ใน 4Q63 (+699% QoQ, +104% YoY) โดยจะส่งผลบวกต่อไปยังธุรกิจสาธารณูปโภค และโรงงานให้เช่า และ 2) สถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มผ่อนคลาย และรัฐบาลเปิดประเทศช่วยหนุนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการทำธุรกรรมสะดวกมากขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อยอดขายและโอนที่ดินให้เร่งตัวขึ้นจากความต้องการซื้อที่ดินที่สะสมค้างอยู่ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาดูพื้นที่จริงได้ ยกเว้นนักลงทุนจากประเทศจีนที่ยังกระทบอยู่บ้าง เนื่องจากรัฐบาลจีนมีนโยบายให้กักตัวเมื่อเดินทางกลับเข้าประเทศ ส่งผลให้รายได้รวม +70% QoQ, +39% YoY เป็น 1,555 ล้านบาท 3) ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 53% เพิ่มขึ้นจาก 51.6% ใน 3Q64 และ 52.9% ใน 4Q63 ตามรายได้ที่สูงขึ้น ส่วนกำไรส่วนแบ่งจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม เราคาดจะยังคงได้รับผลกระทบจากการรับรู้ส่วนแบ่งที่ลดลงของเงินลงทุนในกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้า ปัจจุบัน AMATA มียอด Backlog อยู่ 2,771 ล้านบาท ซึ่งคาดจะทยอยโอนใน 4Q64 และต่อเนื่องไปยังปี 2565

ปี 2565 เข้าสู่ช่วงกำไรขาขึ้น หลากหลายปัจจัยหนุน

เราคาดกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 1,683 ล้านบาท -56% YoY จากยอดขายที่ดินที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และต่อเนื่องไปยังส่วนของธุรกิจสาธารณูปโภค เราประมาณการยอด Pre-sale แบบอนุรักษ์นิยมที่ 980 ไร่ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของรัฐ ได้แก่ วีซ่าผู้พำนักอาศัยระยะยาว กฎระเบียบที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เช่น เว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี ลดหย่อนภาษี 50% เพิ่มอีก 5 ปี 2) ภาครัฐส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และตั้งเป้าการผลิต 4.4 แสนคันภายในปี 2573 ส่งผลให้มีการเพิ่ม/ขยายกำลังการผลิต 3) โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ EEC มีการพัฒนาต่อเนื่อง เช่น รถไฟความเร็วสูง, ท่าเรืออุตสาหกรรม และ 4) ยุทธศาสตร์ China+1 ซึ่งเพิ่มโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะย้าย/ขยายฐานการผลิตมาไทยเพิ่มเติมจากจีน โดยลดการพึ่งพาประเทศจีนเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา Supply Chain ส่วนสถานการณ์ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron เรามองว่าความน่ากังวลลดลง เนื่องจากเชื้อมีความรุนแรงน้อยลง อัตราการตายและทางกรมควบคุมโรคเตรียมประกาศให้เป็นโรคประจําถิ่นแล้ว (Endemic)

ลงทุนสร้างเมืองอัจฉริยะในลาว หนุนยอดขายที่ดินเพิ่มในปี 2566

เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการที่ AMATA เข้าลงทุนในโครงการอมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้ สัมปทานในการพัฒนาที่ดิน 2,563 ไร่ ในนาเตยจากรัฐบาล สปป. ลาว มุ่งเน้นการพัฒนาแบบยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย AMATA วางงบไว้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดจะเปิดรับนักลงทุนภายในปี 2565 เรามองว่าพื้นที่ใน สปป. ลาว จะช่วยเพิ่มรายได้ ขยายฐานลูกค้าและพันธมิตรในอนาคต อีกทั้งทำเลของพื้นที่ที่น่าสนใจ ทำให้มีโอกาสที่จะต่อยอดในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง เนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีนาเตย ของรถไฟระหว่างประเทศ ลาว จีน ในโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ที่ทางจีนต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงตลาดการค้าระหว่างจีนและประเทศอื่น สถานีนาเตย เป็นสถานีใหญ่ที่รองรับทั้งการขนส่งสินค้า (Cargo) และผู้โดยสารปกติ

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ด้วยคาดแนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวโดดเด่นในปี 2565 เราคงมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 24.20 บาท ด้วยวิธี SOTP จาก 1) ธุรกิจนิคม ถึง PE คิดเป็นมูลค่า 10.69 บาท/หุ้น 2) ธุรกิจสาธารณูปโภค และโรงงานให้เช่า อิงวิธี DCF ที่ 5,20 บาท/หุ้น และ 3) ธุรกิจพลังงานและอื่นๆ โดยการลงทุนผ่านบริษัทร่วม ประเมินมูลค่าโดยอิงวิธี DCF คิดเป็นมูลค่าที่ 8.31 บาท/หุ้น ขณะที่ยังมี Upside ที่เรายังไม่รวมในประมาณการ 1) โครงการที่ สปป. ลาว ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีใหญ่ของรถไฟระหว่างประเทศ ลาว-จีน ในโครงการ BRI 2) โรงไฟฟ้าในบริษัทร่วมจะ COD ในปี 2566

- Advertisement -