บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

TOA Paint (Thailand) (TOA) 4Q64 จะฟื้นตัวแต่ไม่เด่น ต้นทุนยังกดดัน

Results Preview

ประเด็นการลงทุน

คาดกำไร 4Q64 จะฟื้นตัว 375 ล้านบาท (+40%QoQ, -24%YoY) แต่ยังเป็นระดับที่น่าผิดหวังจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้น ปี 2565 ยอดขายจะเติบโต 10% นอกจากธุรกิจที่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 50% จะมีการขยายตลาดวัสดุก่อสร้างครบวงจรมากขึ้นช่วยเสริมการเติบโต แต่ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น เราปรับประมาณการกำไรลง TOA มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดในมือสูง 7.3 พันล้านบาท ขยายการลงทุนต่อเนื่อง เราประเมินราคาเป้าหมาย 37 บาท บนฐาน Forward P/E เฉลี่ยประมาณ 35 เท่า ลดลง จาก 40 บาท จากประมาณการที่ปรับลดลง เราคงแนะนำ ซื้อลงทุน

คาด 4Q64 จะฟื้นตัว แต่กำไรยังไม่เด่นและน่าผิดหวัง

แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 จะฟื้นตัวดีขึ้น หลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในไทย และเวียดนามดีขึ้น มีการคลายล็อกดาวน์ และเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น เราคาดยอดขายจะกลับมาเติบโตได้ดี 4,374 ล้านบาท (+10%QoQ, +5%YoY) อย่างไรก็ตาม ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ TOA ได้ทยอยปรับขึ้นราคารอบ 2 อีก 4-5% ใน 4Q64 แต่ยังไม่มีผลเต็มที่ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นเล็กน้อย 30.5% จาก 30.2% เทียบกับปีก่อน 36.1% ดังนั้นคาดกำไร 4Q64 จะมีกำไรเท่ากับ 375 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน 40%QoQ แต่ยังต่ำกว่าปีก่อน 24%YoY รวมปี 2564 เราปรับลดคาดการณ์กำไรลง 9% เหลือ 1,858 ล้านบาท ลดลง 9%YoY

แนวโน้มปี 2565 คาดจะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ปรับลดประมาณการลง

แนวโน้มยอดขายปี 2565 คาดจะเติบโตต่อเนื่อง นอกจากธุรกิจสีที่ส่วนแบ่งตลาดปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 50% จาก 48.7% จะมีการขยายตลาดวัสดุก่อสร้างครบวงจรมากขึ้นช่วยเสริมการเติบโต เช่น กระเบื้อง อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และ เครื่องมือต่างๆ ล่าสุด เตรียมเข้าซื้อบริษัทยิปมันเทค ซึ่งผลิตแผ่นยิปซั่ม สัดส่วน 51% ใช้เงินลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรปี 2565 ตั้งงบลงทุนเพิ่มอีก 800 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต คาดยอดขายจะโต 10% สู่ระดับ 19,000 ล้านบาท แต่ต้นทุนวัตถุดิบที่เกี่ยวกับน้ำมัน (สัดส่วนต้นทุน 13%) และ Tio2 (สัดส่วนต้นทุน 20%) ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เราปรับประมาณการกำไรลง 7% เหลือ 2,135 ล้านบาท แต่จะ เติบโตจากปีก่อน 15%YoY

เดินหน้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียวอย่างยั่งยืน

TOA เป็นองค์กรธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance: ESG) ล่าสุดได้ผ่านการรับรองการขึ้นทะเบียนเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) ประจำปี 2565 เพิ่มเติม 1 แห่ง คือ โรงงานที่โอเอสำโรง จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา โรงงานที่โอเอบางนาก็ได้รับการขึ้น ทะเบียนเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

- Advertisement -