Daily Focus Earnings and Value Play

ตลาดหุ้นวานนี้ :

SET Index แกว่งตัว Sideways Up ต่อเนื่อง โดยมีแรงซื้อเข้ามาช่วงท้ายตลาด โดยเฉพาะหุ้น Big Cap ทำให้ดัชนีปิดบวกได้อีก 6.99 จุด ทะลุและยืนเหนือ High เดิมที่ 1,683 จุดได้สำเร็จ สถาบันในประเทศยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นเร่งขึ้นเป็น 4.2 แต่นักลงทุนต่างชาติก็ซื้อสุทธิสูงถึง 6.7 พันลบ. (และ Long SET50 Index Futures อีก 1.9 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ :

เราคาด SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังทะลุแนวต้านสําคัญ 1,683 จุดได้วานนี้ด้วยแรงซื้อของต่างชาติ ส่วนบรรยากาศการลงทุนเช้า ม.ค. นี้ยังค่อนข้างผ่อนคลาย โดยตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อเดือนของสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนวันพรุ่งนี้ ซึ่งหากเร่งตัวมากกว่าที่คลาดคาด อาจเกิดความผันผวนอีกครั้ง โดยเฉพาะแรงขายหุ้น Tech และ Growth อีกครั้ง กลุ่มพลังงานคาดชะลอความร้อนแรงตามราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัว แต่กลุ่ม Valua Play ที่ยัง Valuation ต่ำ โดยเฉพาะธนาคารมีโอกาส Outperform โดยวันนี้การประชุมกนง.คาดว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% เช่นเดิม แต่คาดปรับคาดการณ์เงินเฟ้อขึ้น เรายังคงให้น้ำหนักบวกกับเศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัว หนุนกระแสเงินทุนให้ยังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า กลยุทธ์ยังเน้นลงทุนในหุ้นที่คาดมีกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง และ Value Play ที่ PER/PBV ไม่สูง

กลยุทธ์: เลือกลงทุนในหุ้น Value และมีแนวโน้มกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน ก.พ.: GFPT, HMPRO, PJW, SC, TKS

หุ้นเด่นวันนี้: CPN

  • แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 68 บาท
  • การเติบโต 5 ปีข้างหน้าสดใส โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2021- 2026 โต 14-16% CAGR และตั้งเป้าพื้นที่เช่าสุทธิ +23% ในปี 2026 เทียบกับ 2021 รวมถึงเน้นกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงจากธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น และแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศเริ่มที่เวียดนาม
  • ในแง่ผลการดำเนินงานคาดทยอยฟื้นตัวใน 4Q21 เป็นต้นไป ต่อเนื่องปี 2022 แม้อัตราค่าเช่าจะยังไม่กลับเท่าช่วงก่อน COVID-19 แต่โมเมนตัมดีต่อเนื่อง เราคาดกําไรปี 2022 +95% Y-Y และ +32% Y-Y ในปี 2023 กลับไปใกล้ปี 2019
  • แนวรับ 54.50-54 บาท แนวต้าน 56.50//58//60 บาท

Fund Flow:

วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคบางๆ US$43 ล้าน และผสมผสานอย่างมาก โดยไหลออกจากไต้หวันและเกาหลีใต้ประเทศละ US$156-185 ล้าน แต่ไหลเข้าสูงสุดที่ไทย US$202 ล้าน ตามด้วยอินโดนีเซีย US$107 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดยังผสมผสานและไม่หนาแน่นนัก โดยรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนวันพฤหัสฯนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) KCE กำไรปกติ 4Q21 ตามคาด +7% Q-Q, +52% Y-Y โดยรายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่ต่ำกว่าที่ผู้บริหารตั้งเป้าจากปัญหาการขนส่งล่าช้า และกำลังการผลิตส่วนเพิ่มช้ากว่าแผน ขณะที่ Gross Margin ลดลง Q-Q ต่ำกว่าคาดพอสมควรเช่นกัน จบปี 2021 กำไร +115% Y-Y เราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไรปี 2022 ที่คาด +31% Y-Y ราคาเป้าหมายปัจจุบันอยู่ที่ 100 บาท ภายในหลังได้รับข้อมูลเพิ่มจากการประชุมวันนี้

(0) IIG คาดกำไร 4Q21 ของ IIG -3.9% Q-Q, -12.6% Y-Y สะดุดชั่วคราว แม้รายได้จะยังโตแกร่ง แต่มีแรงกดดันจากต้นทุนบุคลากรที่เพิ่มขึ้น รองรับการขยายตัวในอนาคต ทำให้กำไรปี 2021 คาดจบที่ +27.2% Y-Y ส่วนแนวโน้มปี 2022 คาดเร่งตัวขึ้นทั้งจาก Demand ลงทุนระบบ ERP และ CRM ที่ยังแข็งแรง และคาดได้แรงหนุนชัดเจนขึ้นจากธุรกิจใหม่ๆ เรายังคงประมาณการกำไรปี 2022 +49.3% Y-Y ราคาหุ้นปรับลงแรงในช่วงก่อนหน้า และทำให้ Upside กลับมาเปิดกว้างอีกครั้ง เทียบกับราคาเป้าหมายที่ 41 บาท จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”

(0) IP คาดกำไร 4Q21 ฟื้นตัว +29% Q-Q, +634% Y-Y หลังจากปรับปรุงการผลิตการตลาด และบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ทั้งสองโรงงานที่ซื้อมาเมื่อ 4Q20 และ 3Q21 และคาดว่าไม่มีรายจ่ายพิเศษ ทำให้จบปี 2021 ด้วยกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ +90% Y-Y จากการรวมโมเดิร์นฟาร์มาเต็มปีและอินเตอร์ฟาร์มาใน 3Q21 ปี 2022 จะโตต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงงานทั้งสองแห่ง และคาดว่าการซื้อร้านขายยา LAB Pharmacy จะแล้วเสร็จใน 2Q22 เราปรับกำไรของ IP ปี 2022-2024 ขึ้นเป็นโต +29% CAGR ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 22.20 บาท ยังแนะนำ “ถือ”

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 371.65 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 35,462.78 จุด หนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับขึ้นเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพ.ย. 2019 ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อาทิ หุ้น Amazon และ – Apple

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน ท่ามกลางติดตามการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

(+) ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ รวมถึงบริษัทจดทะเบียนของญี่ปุ่นเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 89.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าสหรัฐและอิหร่านได้กลับมาเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์วานนี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากที่พักการเจรจาเป็นเวลา 10 วัน

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 6.10 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,827.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,015.96 / +4.36

- Advertisement -