บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action

TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +10.3%

Close Feb 08, 2022 Price (THB) 3.90

12M Target (THB) 4.30

Previous Target (THB) 4.30

What’s new?

  • 4Q64 รายงานกำไรสุทธิ 2.2 พันล้านบาท เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด เติบโต +2% QoQ และ +37% YoY จากอัตราใช้กำลังผลิตสูงขึ้น, ค่าการกลั่นดีขึ้น และค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง
  • ภาพรวมปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท พลิกจากขาดทุน YoY และเป็นนิวไฮของบริษัทฯ หนุนจาก Margin ธุรกิจโรงกลั่น น้ำมันหล่อลื่น และกำไรสต็อกน้ำมันสูง 1.3 หมื่นล้านบาท

Our View

  • ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นตั้งแต่ต้นปี ทำให้ 1965 อาจมีกำไรสต็อกน้ำมันเข้ามาช่วย แต่กำไรปกติคาดถูกกดดันจากต้นทุนน้ำมัน และการปรับตัวลงของ Spread ปิโตรเคมีหลักอย่าง PP และ ABS
  • ระยะสั้นสามารถ Trading ตามราคาน้ำมัน และมีเงินปันผลจำกัด Downside ทั้งนี้ การลงทุนระยะถัดไป TOP IVL เป็นตัวเลือกหุ้นโรงกลั่น – ปิโตรเคมีที่น่าสนใจกว่า เพราะสัดส่วนธุรกิจโรงกลั่นสูงกว่า ตลาด PET แข็งแกร่งกว่า ไม่มีปิดซ่อมใหญ่กดดัน

IRPC กําไรนิวไฮตามคาด แต่ปีนี้ไม่ง่ายแล้ว

รายงานงบ 4Q64 ตามคาด…ผลประกอบการทั้งปีนิวไฮ

ประกาศงบ 4Q64 มีกำไรสุทธิ 2.2 พันล้านบาท เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด สาระสำคัญดังนี้

1) แม้อัตรากำไรขั้นต้น Market GIM ทำได้ US$10.9/bbl ลดลง -12% QoQ จากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเพราะต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น, ค่าขนส่งอยู่ระดับสูง, และอุปสงค์จากผู้ผลิตยานยนต์ – เครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนซิป – ตู้คอนเทนเนอร์ อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการสามารถขยายตัว +2% QoQ และ +37% YoY จาก 2) อัตราใช้กำลังผลิตของโรงกลั่นที่ดี ขึ้นเป็น 93% (+4% QoQ, +1% YoY) หลังผ่านการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาสก่อน 3) ค่าการกลั่นดีขึ้น +23% QoQ และ +77% YoY เป็น US$6.2/bbl สาเหตุหลักมาจากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 3) ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานทำได้ US$11/bbl ทรงตัว QoQ แต่ -13% ซึ่งเป็นผลจาก ฃโครงการปรับโครงสร้างด้านบุคลากร (Noah)

4) ไตรมาสนี้มีกำไรสต็อกน้ำมัน 2.1 พันล้านบาท เทียบ กับ 2.7 พันล้านบาทใน 3Q64 และ 1.6 พันล้านบาทใน 4Q63 ขณะที่ภาพรวมปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท พลิกจากขาดทุน YoY ขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ของบริษัทฯ หนุนจากอัตรากำไรธุรกิจโรงกลั่น น้ำมันหล่อลื่นดีขึ้นมาก และมีกำไรสต็อกน้ำมัน 1.3 หมื่นล้านบาท

1Q65 กำไรปกติไม่เด่น ต้องลุ้นกำไรสต็อกน้ำมัน

สำหรับ 1Q65 สถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ทำให้ IRPC มีโอกาสบันทึกกำไรสต็อกน้ำมันเข้ามาช่วย อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรปกติจะไม่เด่น เพราะถูกกดดันจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนน้ำมัน (Crude Premium) อ้างอิง Arab Light OSP 1Q65 เป็น Premium US$2.8/bbl (เทียบกับ 4Q64 Premium US$1.9/bbl) รวมทั้ง Spread ปิโตรเคมีหลักมีทิศทางอ่อนแอลง 1QTD PP-Naphtha เฉลี่ย US$535/ ตัน (-9% QoQ, -34% YoY) และ ABS-Naphtha เฉลี่ย US$1,046/ตัน (-24% QoQ, -41% YoY)

ปี 2565 เข้าสู่รอบวัฏจักรปิดซ่อมบำรุงใหญ่

เราปรับกำไรปกติปี 2565 ลง 17% เป็น 3.8 พันล้านบาท (-19% YoY) จากการอัพเดทสมมติฐานหลัก

1) ปรับลดอัตราการใช้กำลังผลิตของโรงกลั่นลงเหลือ 85% สะท้อนการเข้าสู่รอบวัฏจักรปิดซ่อมบำรุงใหญ่ทุก 5 ปี ซึ่งบริษัทฯ จะปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่น ADU เป็นเวลา 1 เดือนในช่วง 4Q65

2) ปรับลดอัตรากำไรขั้นต้น Market GIM ลง 7% โดยหลักมาจากมุมมองตลาดปิโตรเคมีที่จะถูกกดดันจากกำลัง ผลิตใหม่จากจีน และมาเลเซีย

ปันผลช่วยจํากัด Downside ระยะสั้น

คงคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 4.30 บาท อ้างอิง PBV ที่ 1.0 เท่า ให้ส่วนลด -0.5 SD จากค่าเฉลี่ย 10 ปี (เท่าเดิม) ระยะสั้นหุ้นมีปัจจัยช่วยจำกัด Downside จากเงินปันผลงวด 2H64 สูง 0.14 บาท/หุ้น Yield 3.6% ขึ้น XD วันที่ 22 ก.พ. 2565 และทิศทางราคาน้ำมันดิบแข็งแกร่งจากสถานการณ์ในยูเครน อย่างไรก็ตาม  สำหรับการลงทุนในระยะถัดไป เรามองว่าหุ้นโรงกลั่น TOP หรือหุ้นปิโตรเคมี IVL จะดูน่าสนใจกว่า เนื่องจาก TOP มีสัดส่วนธุรกิจโรงกลั่นสูงกว่า ไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่ ขณะที่มุมมองตลาดปิโตรเคมี PET ของ IVL มีความแข็งแกร่งกว่า PP ของ IRPC

- Advertisement -