สรุปภาวะตลาด
วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวข้ึนอย่างแข็งแกร่งทะลุแนวต้านบริเวณ 1,700 จุด ขึ้นสูงสุดถึง 1,708 จุด พร้อมปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น จากแรงซื้อในหุ้น Big Cap. ทั้งในกลุ่มธนาคาร ไอซีที และขนส่ง โดยตลาดหุ้นไทย ได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่มีแรงขายออกมามากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากที่ KCE รายงานงบออกมาต่ำกว่าท่ีตลาดคาด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,703.16 จุด +18.93 จุด +1.12% มูลค่าการซื้อขาย 135,625 ลบ.ต่างชาติ +17,416.41 ลบ. TFEX -14,491 สัญญา ตราสารหนี้ +16,331.93 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มข้ึน 305.28 จุด +0.86% ขณะท่ีดัชนี Nasdaq พุ่งข้ึนกว่า 2% ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลง และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มข้ึน 30 เซนต์ +0.3% ปิดที่ 89.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ท่ีแล้ว ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
+ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ท่ี 0.50% ต่อปีต่อไป เนื่องจากแม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ยังคงมีความเปราะบางและการฟื้นตัวท่ีไม่เท่ากัน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย
+ fundflow ซื้อสุทธิหุ้นไทย YTD เกือบ 4.3 หมื่นล้าน บาท
+ ส.อ.ท. เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมกราคม 2565 ว่าเพิ่มข้ึนจากเดือนธันวาคม 2564 รวมเป็น 5 เดือนติดต่อกัน และกลับมาอยู่ระดับใกล้เคียงก่อนวิกฤติโควิด-19 ในช่วงต้น ปี 2563
ปัจจัยลบ
– ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 ในประเทศวันนี้เดินหน้าเพิ่มข้ึนต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,822 ราย ATK 7,754 ราย ผู้เสียชีวิต 20 ราย รักษาหาย 8,503 ราย
– WHO คาดการณ์ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุย่อย BA.2 ของโอมิครอนจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก แต่ยังไม่มีข้อมูล ชัดเจนว่าสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำในผู้ท่ีเคยติดเชื้อโอมิครอนมาก่อนหรือไม่
– สถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยผลการวิเคราะห์ว่า จีนไม่ได้ซื้อสินค้าสหรัฐตาม ข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคีที่ลงนามในปี 2563 ซึ่งตอกย้ำถึงความล้มเหลวของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์
– โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี สู่ระดับ 2.25% ภายในปลายปีนี้ และจะแตะระดับ 2.45% ในปลายปี 2566
-ECB กำลังเตรียมความพร้อมให้ธนาคารต่างๆสามารถป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่อาจเกิดข้ึนจากการสนับสนุน ของรัสเซีย ท่ามกลางบรรยากาศท่ีตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน
– สภาพัฒน์ มองศก.ไทยข้างหน้าเผชิญข้อจำกัดหลังโควิด แนะกระจายอำนาจการผลิตลดความเสี่ยง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง หลังจากปรับตัวข้ึนแรงวานนี้ จาก Fund Flow นักลงทุน ต่างชาติท่ีเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Big Cap. ขณะที่นักลงทุนยังจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนวันน้ี มองกรอบดัชนีในวันนี้ท่ี 1,695-1,710 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาใช้มาตรการ Test&Go และเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 : ERW CENTEL MINT AOT AAV BA ASAP
- หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
หุ้นรายงานพิเศษ
PEACE – บมจ.พีซแอนด์ลีฟวิ่ง <SET/PROPCON> ราคา IPO 3.98 บาท
- PEACE ประกอบธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เน้นโครงการท่ีอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใต้ชื่อ “บ้านพัฒนาการ” “The Exclusive” “Cordiz” “The Glamor” และ “Cher” ณ วันที่ 25 พ.ย.64 บริษัทฯมีโครงการอยู่ระหว่างขาย 7 โครงการ มูลค่าประมาณ4.7 พันลบ. และโครงการในอนาคต 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 3 พันลบ.
- ผลการดำเนินงานปี 61-63 บริษัทมีรายได้รวม 665.6 ลบ. 429.8 ลบ. และ 866.9 ลบ. ตามลำดับ รายได้ปี 63 เติบโต 101.7%YoY จากการเปิดขายบ้านโครงการใหม่คื อCher งามวงศ์วาน– ประชาชื่น รวมถึงการมียอดโอนกรรมสิทธ์ิโครงการอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 37.5%, 38.8%, และ 37.7% ตามลำดับ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิท่ี 119.9 ลบ. 31.5 ลบ. และ 133.7 ลบ. คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 18.0%, 7.3% และ 15.4% ตามลำดับ ในช่วง 9M64 มีรายได้ รวม 809.6 ลบ. +40.8%YoY อัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 38.8% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ ท่ี 150.8 ลบ. +74.7%YoY คิดเป็น %NPM เท่ากับ 18.6%
- เสนอขายหุ้นต่อประชาชน 84 ล้านหุ้น คิดเป็น 20% ของหุ้นท้ังหมด Par 1.00 บาท มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,671.6 ลบ. วัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนซื้อที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 314 ลบ.
- P/E เสนอขายท่ี 8.47 เท่า เทียบกับ AP 5.74x, LALIN 6.42x, PRIN 9.59x, PSH 11.44x, SC 6.71x, SPALI 9.49x, QH 12.22x (ท่ีมา : สรุปข้อสนเทศ)
หุ้นมีข่าว
(+) NV (ราคาเหมาะสม 8.50 บาท) สบช่องปลดกัญชาจากบัญชียาเสพติด ตั้งทีม R&D ศึกษาธุรกิจครบวงจร ควบพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ มีกัญชงผสมถั่งเช่า ผู้บริหารรับเดินหน้าผนึกพันธมิตรทั้งดารายักษ์ใหญ่ บจ. ออกผลิตภัณฑ์ มีสื่อนอกบ้านรายใหญ่ร่วมด้วย ขณะที่ธุรกิจหลักโรงสกัด-ศูนย์เทเลเซลเดินหน้าตามแผนช่วยดันผลงานกระฉูด (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BIZ (ราคาเหมาะสม 9.00 บาท) “สมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์” บอสใหญ่ BIZ แย้มข่าวดีเตรียมเซ็นสัญญารับงานใหม่ มูลค่าเกิน 100 ล้านเร็วๆ นี้ ส่วนทั้งปี 2565 คาดงานออก 1.5-1.6 พันล้านบาท ลุ้นโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ผลงานพลิกบวก หลังมีผู้ใช้บริการเพิ่มข้ึน หนุนมาร์จิ้นฟู (ที่มา ทันหุ้น)
(+) EKH (Bloomberg Consensus 8.30 บาท) เผยเดือนม.ค.65 คนไข้ OPD/IPD ฟื้น อัตราครองเตียงพุ่ง 80-90% ผู้ป่วยโควิด-19 ไหลเข้ามาต่อเนื่อง วางเป้ารายได้ปี 2565 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% ชี้ศูนย์ IVF ลูกค้าไทยตอบรับดี เตรียมเปิดศูนย์ผู้สูงอายุเดือนพ.ค. 65 อัดฉีดงบ 100-200 ล้านบาท รองรับการลงทุนโปรเจ็กต์ใหม่ปีนี้ แย้มอยู่ระหว่างเจรจาหลายราย คาดไม่เกินกลางปีได้ข้อสรุป (ที่มา ทันหุ้น)
(+) GPSC (Bloomberg Consensus 90.00 บาท) ส่งบริษัทย่อยร่วมเซ็นสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่ครบอายุการใช้งาน กำลังการผลิต 96 เมกะวัตต์ มูลค่าราว 4,000 ล้านบาท ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด คาด COD ได้ต้นปี 2567 มั่นใจรักษาสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น (ท่ีมา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 10 ก.พ.เปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 4 สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่เคยใช้สิทธิ์ หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย
- สัปดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
- 17-18 ก.พ. สภาฯเปิดอภิปรายท่ัวไปโดยไม่ลงมติ
- 21 ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP 4Q64
- 22 ก.พ.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
- 28 ก.พ. กำหนดวันสุดท้าย บจ.ส่งงบการเงินปี 64
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 10 ก.พ. จีนเปิดเผยยอดขายรถเดือนม.ค. ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนม.ค. ยอดปล่อยกู้ล๊อตใหม่สกุลเงินหยวนเดือนม.ค.
สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (Bloomberg คาดการณ์ 230k ราย) และอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.(คาดการณ์เงินเฟ้อที่ระดับ 7.3% สูงสุดรอบ 30 ปี)
- 11 ก.พ.อังกฤษรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 4Q64
สหรัฐรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- 15 ก.พ.อียูรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 4Q64 (ประมาณการครั้งที่ 2)
- 15-16 มี.ค. กำหนดประชุม FED