บล.คันทรี่ กรุ๊ป:
KCE: ลดมูลค่าพื้นฐานปี 2022 ลง 7% สะท้อนประเด็นระยะสั้น
การประชุมนักวิเคราะห์ให้ภาพปี 2022 ที่ค่อนไปทางลบ จึงปรับลดมูลค่าพื้นฐานลง 7% เป็น 95.8 บาท อิง 38.4x PE22E หรือ +1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เพราะมีภาพรวมเชิงบวกในปี 2022-23 หนุนจากอุปสงค์การใช้แผ่นพิมพ์ลายวงจร (PCBs) ที่สูงขึ้นในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โลก metaverse อุปกรณ์ด้านอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) และ 5G
- ราคาหุ้นที่ลดลงล่าสุดสะท้อนความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และการเลื่อนเดินเครื่องโรงงานใหม่ไปแล้ว ซึ่งถือเป็นประเด็นในระยะสั้น จึงอาจกลายเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าสะสม
- ปรับลดประมาณการกำไรปี 2022 ลง 7% เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรที่ลดลงจากต้นทุนทองแดงที่สูงขึ้น และรายได้ที่ลดลง จากการเลื่อนการเดินเครื่องโรงงานใหม่
- ภาพรวมตั้งแต่ 2H22 จะสดใสมากขึ้นเมื่อกำลังการผลิตใหม่เริ่มเดินเครื่องการผลิต คาดราคาทองแดงจะลดลง 6% YoY ในปี 2022 หากอิงการรายงานของ Ivanhoe Mines ซึ่งจะเป็นผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของบริษัท
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2022 ลง แต่เพิ่มตัวเลขปี 2023 ขึ้น
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2022 ลง 7% เพื่อสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ทำให้สมมติฐาน GPM ลดลง 1.8ppts เป็น 27.7% ต่ำกว่าแนวทางผู้บริหารที่ 30% เพราะเชื่อว่าการผลิตจะปรับเพิ่มขึ้นเร็วพอที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายเบื้องต้นจากโรงงานใหม่ในลาดกระบังและอยุธยาที่เลื่อนกำหนดการเดินเครื่องได้ ขณะที่ปรับเพิ่มการเติบโตของรายได้ขึ้นเล็กน้อย 3.3% จากฐานที่ต่ำแต่สอดคล้องกับแนวทางของผู้บริหาร คาดตลาด PCB จะโตอย่างรวดเร็วจากอุปสงค์ในกลุ่ม IoT คลาวด์ และโลก metaverse
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ขึ้น 6% จากศักยภาพที่ดีขึ้น พร้อมกับปรับเพิ่มรายได้ขึ้น 3.7% เพราะเชื่อว่าโรงงานลาดกระบังจะเดินเครื่องเต็มที่ภายในปี 2023 คาด GPM จะโตเป็น 30.5% เพราะประเมินว่าบริษัทจะปรับเพิ่มราคาขายเฉลี่ย PCBs ประเภทหลายชั้นขึ้น สรุปคือมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะยาวของ KCE
สรุปผลประกอบการ 4Q21
- กำไรสุทธิ 4Q21 อยู่ที่ราว 686 ล้านบาท (+80%YoY, +11%QoQ) แตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์
- รายได้อยู่ที่ราว 4.2 พันล้านบาท (+23%YoY, +11%QoQ) ด้วยแรงหนุนจากกลุ่ม PCB ที่โตแข็งแกร่งในยุโรปและเอเชีย โดยรวมแล้วกลุ่ม PCB จะโตขึ้น 17%YoY และ 8%QoQ สะท้อนอุปสงค์ที่มีอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์โควิด
- อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 25.3% ต่ำกว่าคาดอย่างมาก เพราะ GPM ในทุกกลุ่มธุรกิจต่างปรับลดลง
- ค่าเงินบาทยังทรงตัว QoQ ที่ 33.2 บาท แต่อ่อนค่าลง 9% YoY
ภาพรวมปี 2022
คาดกำไรปี 2022 จะโต 21%YoY จากการเติบโตของกลุ่ม PCB ในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) คลาวด์ โลก metaverse เกม EV และอื่นๆ
Revenue Breakdown
1) แผ่นพิมพ์ลายวงจร (PCBs) คิดเป็นสัดส่วน 80% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท PCB เป็นส่วนประกอบพื้นฐานสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภท อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันคือส่วนที่ขับเคลื่อนกลุ่มอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) เทคโนโลยี 5G โลก metaverse และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้สำหรับการทำงานจากบ้าน โดยมีการใช้ PCBs ในกลุ่มที่กำลังเติบโตอย่างรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อีกด้วย
2) เคมีภัณฑ์มีสัดส่วนที่ 3% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท โดยส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการผลิตหมึกพิมพ์ PCB และสารเคมีที่ใช้ในการผลิตแผงวงจรไฟฟ้า
3) Prepreg และ Laminates คิดเป็นสัดส่วน 17% ของรายได้ทั้งหมด โดย Prepregs (pre-impregnated) เป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักที่ใช้ในแผ่นวงจรพิมพ์แบบหลายชั้น ใช้ในการประกอบแผ่นวงจรให้ยึดติดกัน โดยใช้ ไฟเบอร์กลาสชุบเรซิน (วัสดุที่ทำจากอีพ็อกซี่) จากนั้นกดทับแผ่นวงจรขนาดเข้าด้วยกันที่อุณหภูมิสูงเพื่อสร้างแผ่นวงจรที่มีหลายชั้น