บล.กรุงศรีฯ:
กลุ่มอุตสาหกรรม | วัสดุก่อสร้าง |
หุ้น | EPG |
มูลค่าพื้นฐาน | 16.00 |
คำแนะนำ | BUY |
- 3QFY22 (Oct-Dec) highlights
กำไรสุทธิ 3Q ที่ 400 ลบ. (0.14 บาท EPS), -3% qoq และ -4% yoy
กำไรสุทธิต่ำกว่าคาดการณ์ของเราและตลาด 4% และ 2% ตามลำดับ หากไม่รวมรายการพิเศษ (อัตราแลกเปลี่ยน, ค่าใช้จ่ายพิเศษ) กำไรปกติ +3% qoq ยอดขายยังอยู่ในระดับที่ดี -1% qoq แต่ +14% yoy เป็น 2.95 พันลบ. หนุนจากฉนวนยาง (+7% qoq, +19% yoy) และบรรจุภัณฑ์ (+8% qoq, +15% yoy) ยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์ลดลง 9% qoq (+10% yoy) เนื่องจากผลกระทบของการขาดแคลนชิป ยอดขาย TJM ลดลง 11% qoq EPG ซื้อร้านค้า TJM ใหม่ 1 ร้านค้าในต.ค.-ธ.ค. 21 และรับรู้รายได้เพียงหนึ่งเดือนในธ.ค. แต่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อ ทำให้ TJM พลิกเป็นขาดทุน 4 ลบ. จากกำไร 52.6 ลบ. ในก.ค.-ก.ย. 21 อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ฉนวนยางอยู่ในระดับที่ดี 40.8% (-0.8ppt qoq) และชิ้นส่วนรถยนต์ 32.5% (-1.3% qoq) ส่วน GPM บรรจุภัณฑ์ฟื้นตัวเป็น 19.7% (+7.4ppt qoq) ทำให้ GPM รวมเพิ่มเป็น 31.4% จาก 30.7% ไตรมาสก่อนหน้า EPG มีกำไรสุทธิที่ 400ลบ., -3% qoq และ -4% yoy กำไรสุทธิ 9M ที่ 1.26 พันลบ. (0.45 บาท EPS) คิดเป็น 75% ของคาดการณ์ทั้งปีของเราและสูงกว่ากำไรปี FY21 ไปแล้ว (1.22 พันลบ.)
- ยอดขายฉนวนยางและบรรจุภัณฑ์แข็งแกร่งในม.ค.
ใน ม.ค. – มี.ค. 22 เราคาดจะเห็นผลของการปรับราคาขายขึ้นฉนวนยางในสหรัฐฯ ซึ่งมีสัดส่วนเป็น 40% ของยอดขายฉนวนยางทั้งหมด ยอดขายบรรจุภัณฑ์ยังแข็งแกร่งในม.ค.โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 20% สถานการณ์การขาดแคลนชิปจะดีขึ้นในปีนี้ เห็นได้จากยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ฟื้นตัวตั้งแต่ ต.ค. – ธ.ค. 21 คาด TJM จะฟื้นตัว qoq เนื่องจากมีวันหยุดยาวในธ.ค. 21 และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ
- คงคำแนะนำ ซื้อ DCF TP ที่ 16.0 บาทต่อหุ้น
เราคาดยอดขายและ GPM ของ EPG จะฟื้นตัว qoq ใน ม.ค. – มี.ค. 22 เนื่องจากซัพพลายชิปที่มากขึ้นในตลาด ยอดขาย TJM จะฟื้นตัว qoq เนื่องจากการส่งออกรถยนต์จากไทยฟื้นตัวตั้งแต่ต.ค. – ธ.ค. 21 แต่จะยังไม่เห็นผลชัดเนื่องจากระยะเวลาในการขนส่ง TP 16.0 บาท เทียบเท่า 26.5x/24.4x FY22/23F PE