บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +15.9%

Close Feb 11, 2022 Price (THB) 12.60

12M Target (THB) 14.60

Previous Target (THB) –

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 158 ลบ. (-4.2% QoQ, +168.9% YoY) เป็นจุดสูงสุดอันดับ 2 ของบริษัท
  • บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 4Q64 จำนวน 6 โครงการรวมมูลค่า 4.3 พันลบ. โดยมี Take-up rate เฉลี่ยที่สูงถึง 70%
  • เราคาดแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2565 จำนวน 9 โครงการรวมมูลค่า 1.1 หมื่นลบ ยังมี Upside risk อีกราว 20-30% จากการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตร

Our View

  • คงประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 1.1 พันลบ. เติบโตกว่า 72.9% YoY จากแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ เติบโตอย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยหลักหนุนผลประกอบการตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 14.60 บาท/หุ้น อิง PER65 ที่ 11.5x เรามองว่า BRI ควรซื้อขายบน PER ที่เป็น Premium เมื่อเทียบกับกลุ่ม จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่เด่นที่สุดในกลุ่ม และ Upside risk จากการเข้าลงทุนใน JV และ Synergy ของการเป็นบริษัทลูกของ ORI

BRITANIA คาดผลประกอบการปี 2565 โตเด่นสุดในอุตสาหกรรม

คาดกําไรปกติ 4Q64 ลดลงเล็กน้อย QoQ แต่เติบโตอย่างก้าวการโดด YoY

เราคาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 158 ลบ. (-4.2% QoQ, +168.9% YoY) ลดลงเล็กน้อย QoQ จากผลกระทบของมาตรการปิดแคมป์คนในช่วง 3Q64 เป็นผลให้การส่งมอบและการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการใน 4Q64 ล่าช้าลง อย่างไรก็ดี กำไรปกติที่เติบโตเด่น YoY เป็นผลมาจากการการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปี 2561-2564 ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 36.3% 3-Y CAGR ทำให้มูลค่าโครงการเปิดตัวสะสม ณ สิ้น 4Q64 อยู่ที่ 2.4 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 1.6 หมื่นลบ.

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q64 คาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 30bps QoQ และ 71bps YoY เป็น 31.4% จาก 2 ปัจจัยหลักคือ 1) Product mix ในการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการภายใต้แบรนด์ Grand Britania ที่เพิ่มมากขึ้น เป็นโครงการระดับ Luxury ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง และ 2) ผลบวกของ Economy of scale ที่ทำให้ต้นทุนเริ่มลดลงหลังการเปิดตัวโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เราคาดอัตราส่วน SG&A/Sales ในช่วง 4Q64 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 32 bps QoQ จากการบันทึกค่าธรรมเนียมของ IPO (One-time event) ประกอบกับการเปิดตัวโครงการใหม่ที่หนาแน่นกว่า 4.3 พันลบ. ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วง 3Q64 ทั้งนี้ SG&A/Sales คาดปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญกว่า 411 bps YoY จากสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 103.7% เป็น 1.0 พันลบ.

สำหรับยอด Presale 4Q64 เราคาดบริษัทจะรายงานที่ 2.0 พันลบ. ลดลง 7.2% QoQ จาก 3064 ที่เป็น จุดสูงสุดของปี แต่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 58.9% YoY เป็นผลให้ยอดขายทั้งปี 2564 คาดอยู่ที่ 8.4 พันลบ. (+32.3% YoY)

ปี 2564 ยอดเปิดตัวโครงการใหม่เติบโต 25% … ปี 2565 คาดโตอีก 39% เป็นอย่างน้อย

ในช่วง 9M64 บริษัทมียอดเปิดตัวโครงการใหม่สะสมที่ 3 โครงการรวมมูลค่า 3.5 พันลบ. และได้เปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีกจำนวน 6 โครงการใน 4Q64 รวมมูลค่า 4.3 พันลบ. โดยมี Highlight คือ Grand Britania Nonthaburi Station (550 ลบ.), Grand Britania Rama IX – Krungthepkreetha (850 ลบ.) LA Britania Praksa Station (850 ลบ.) ซึ่งสามารถทำ Take-up rate ได้แล้วว่า 70% ของเฟสแรกของการเปิดตัว (เฟสแรกของโครงการเปิดตัวใหม่รวมมูลค่าราว 700 ลบ.) ทั้งนี้ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี 2564 อยู่ที่ 7.8 พันลบ. เติบโตขึ้น 25.0% YoY

สำหรับปี 2565 เดิมบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 9 โครงการรวมมูลค่า 1.1 หมื่นลบ. (+39.4% YoY) อย่างไรก็ดี เราคาดแผนการเปิดตัวยังมี Upside risk อยู่ราว 2-3 โครงการรวมมูลค่า 2.0-2.5 พันลบ. จากปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรจัดตั้งบริษัท JV ในโมเดลคล้ายกับ OR หากเกิดขึ้นในปี 2565 คาดบริษัทจะได้รับรายได้จากการบริหารโครงการ และ Share premium ในการจัดตั้ง JV เป็น Upside risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2565 ที่ 14.60 บาท/หุ้น ปี 2565 แนวโน้มกำไรยังแกร่ง

เราคาดการณ์กำไรปกติปี 2565 ที่ 1.1 พันลบ. เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่า 72.9% YoY จากอุปสงค์แนวราบที่คาดฟื้นตัวหลังการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ส่งผลบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อภายในประเทศ ประกอบกับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นสูงกว่า 1.0 หมื่นลบ. ต่อปี จะเป็นปัจจัยสำคัญยกฐานกำไรปกติเหนือระดับ 1.0 พันลบ. ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 14.60 บาท/หุ้น อิง PER2565 เท่าเดิมที่ 11.5x เทียบเท่าผู้ประกอบการอสังหาขนาดกลาง-เล็กที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และมองว่า BRI ควรซื้อขายบน PER ที่เป็น Premium เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม จาก Upside risk ของการเข้าลงทุนใน JV และ Synergy ของการเป็นบริษัทลูกของ ORI ที่เป็นบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำที่มีเครือข่ายการให้บริการอย่างครบวงจร

- Advertisement -