ยังคงมุมมองอย่ากังวลสถานการณ์ยูเครนจนเกินไป

รัสเซียส่งสัญญาณยังต้องการเจรจา สถานการณ์ในยูเครนยังสับสน หลังมีหลายกระแสข่าวระบุรัสเซียพร้อมบุกยูเครนในวันพุธนี้ ขณะที่รัสเซียเรียกร้องให้ฝ่ายตะวันตกให้หลักประกันว่าจะไม่ปล่อยให้องค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) รับยูเครนและอดีตประเทศสาธารณรัฐโซเวียตอื่นเข้าเป็นสมาชิกเพิ่มเติม รวมทั้งยุติการเพิ่มอาวุธประจําการในยูเครน และถอนทหารออกจากยุโรปตะวันออก ซึ่งเรายังคงมุมมองรัสเซียเคลื่อนกำลังทางทหารมิใช่เพื่อยึดครองยูเครน แต่เพื่อกดดันให้เกิดการเจรจาและคำมั่นว่าบริเวณโดยรอบของรัสเซียจะเป็นรัฐกันชนที่ปราศจากการแทรกแซงของทางสหรัฐฯ ซึ่งถูกมองเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัสเซีย

ระวังความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กลุ่มโรงกลั่นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบจากภาวะไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทาน แต่การปรับขึ้นอย่างรวดเร็วจากความกังวลความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยูเครนรับรู้ไปในราคาพอสมควรแล้ว ขณะที่หุ้นพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP ปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ ทำให้เรามองกลุ่มโรงกลั่นเริ่มเป็นตัวเลือกระยะสั้นที่น่าสนใจกว่า จากผลประกอบการที่น่าจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 4/64 และ 1/65 จากทั้งค่าการกลั่นและกำไรจากสต็อค โดยเราชอบ TOP (ใกล้ประกาศราคาเพิ่มทุน) และ BCP (บริษัทลูกจะเข้า IPO ในเดือนหน้า)

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง การเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ บวกต่อ CK STEC, ID, UNIQ

2) กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ตลาดเก็งกำไรการเข้าสู่ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอล และผลประกอบการปี 2564 ที่น่าจะเห็นการจ่ายปันผลในระดับที่ดี อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่ชัดเจนของภาพรายได้ปี 2565 อีกมาก การเก็งกำไรจึงควรกำหนจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง KGI, ASP, CGH, FSS

3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPAL, AP, SC, ASW

4) กลุ่มบันเทิง ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากงบโฆษณาที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ บวกต่อ ONEE, BEC, WORK, MONO

5) หุ้นเก็งกำไรทางเทคนิค อาทิ SFT, WPX, CV, UBE, RAM, IND, MAKRO, CPALL, JAS, PTL BCP

ภาพรวมกลยุทธ์: ผันผวนไม่หลุด 1,685 จุด ยังไม่เสียโมเมนตัมเชิงบวก เน้นเก็งกำไรสลับรายกลุ่ม โดยเลือกหุ้นที่ยังมีความน่าสนใจในเชิงของ valuation และมีทิศทางการเติบโตของกําไรเป็นบวก ขณะที่เพิ่มความระวังกลุ่มโฆษณานอกบ้าน จากการรับฟังความเห็นห้ามโฆษณาคริปโท และกลุ่มลงทุนขุดเหมืองหลังตลท.ออกมาเตือนผู้ลงทุน ระมัดระวัง

หุ้นแนะนำ: TOP*, BCP*, MAKRO*, TWPC*

แนวรับ: 1,685 / แนวต้าน : 1,708-1,720 จุด สัดส่วน : เงินสด 50%:พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • เคาะภาษีรถ EV ลดสูงสุดคันละ 1.5 แสนบาท – รมช.คลังประกาศเตรียมแพ็กเกจลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า เสนอเข้าครม. เร็วๆ นี้ เผยส่วนลดมากสุดคันละ 1.5 แสนบาท พร้อมดึงต่างชาติตั้งโรงงานผลิต 1.5 แสนคัน ภายใน 2-3 ปีนี้ ขยายจุดชาร์ตไฟเพิ่มขึ้น
  • กลุ่มโฆษณานอกบ้าน – ก.ล.ต.เล็งคุมเข้มโฆษณาคริปโท เปิดรับฟังความเห็น 14 ก.พ.-15 มี.ค.นี้ คาดเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อกลุ่มโฆษณานอกบ้าน (out of home media) อาทิ PLANB, MACO เป็นต้น
  • ACE – ลงนาม PPA ขายไฟฟ้าให้กับ กฟภ. โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 8 โครงการ กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ เตรียมเดินหน้าก่อสร้าง 10 เดือน มั่นใจ COD ก่อนกําหนด
  • CENTEL – เผยอัตราเข้าพักโรงแรมในมัลดีฟส์เดือน ม.ค.65 พุ่ง 83-86% มากกว่า ปี 62 ขณะที่โรงแรมที่ภูเก็ตจยังทำผลงานได้ดี ด้านธุรกิจอาหารฟื้นตัวต่อเนื่อง
  • KTC – ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นจากช็อปดีมีคืน ปรับเป้าเพิ่มสินเชื่อ “พี่เบิ้ม” (จำนำทะเบียนรถ) เป็น 11,500 ล้านบาท (จาก 2,500 ล้านบาท)
  • PTTGC – รายงานกำไร 3,250 ล้านบาท ลดลง -54% QoQ, -49% YoY แย่กว่าที่เราคาด จากการบันทึกรายการพิเศษสํารองด้อยค่าโครงการในอดีต และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมถึงจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่ลดลง

ประเด็นติดตาม: 15 ก.พ. – Thai GDP 4Q21, EU GDP 4Q21 / 16 ก.พ. – US Retail Sales เดือน ม.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

ประเด็นลงทุนสําหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร TOP* (65): ผลประกอบการฟื้นตัว ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มแม้กดดันค่าการกลั่น แต่เป็นปัจจัยบวกกำไรจากสต็อค ตัดขาดทุน 51.75 บาท
  • เก็งกำไร BC*P (33): แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัว เตรียมนำบริษัทลูกเข้า IPO ในเดือนมี.ค.65 ตัดขาดทุน 28 บาท
  • เก็งกำไร MAKRO (50): หุ้นขนาดใหญ่ที่ยัง leggard และได้อานิสงค์ทั้งจากเปิดเมืองและการท่องเที่ยว ที่จะฟื้นในปี 2566 ตัดขาดทุน 39 บาท
  • เก็งกำไร TWPC* (6.50): ผลการดำเนินงานฟื้นตัวต่อเนื่อง ราคาปัจจุบันยังซื้อขายต่ำมูลค่าทางบัญชี ตัดขาดทุน 5.45 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (14 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึง เครียดในยูเครน โดยล่าสุดสหรัฐสั่งย้ายสถานทูตอเมริกันในกรุงเคียฟไปยังพื้นที่ฝั่งตะวันตกของยูเครนแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ สนับสนุนให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันจันทร์ (14 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน  และความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นนั้น ได้ส่งผลกดดัน ตลาด (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงกว่า 2% (14 ก.พ.) หลังก่อนหน้านี้ปิดบวกมา 3 วันติดต่อกัน เนื่องจากนัก ลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเตือนว่ารัสเซียพร้อมที่ จะบุกโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ แม้ในระหว่างการแข่งโอลิมปิกฤดูหนาว

ตลาดน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WII) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีในวันจันทร์ (14 ก.พ.) ท่ามกลางความกังวลที่ว่าสหรัฐและชาติตะวันตกอาจคว่ำบาตรรัสเซีย หากรัสเซียตัดสินใจบุกโจมตียูเครน ซึ่ง สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากรัสเซีย (อินโฟเควสท์)

เคาะภาษีรถ EV ลดสูงสุด

รมช.คลังประกาศเตรียมแพ็กเกจลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า เสนอเข้า ครม. เร็วๆ นี้ เผยส่วนลดมากสุดคันละ 1.5 แสนบาท พร้อมดึงต่างชาติตั้งโรงงานผลิต 1.5 แสนคัน ภายใน 2-3 ปีนี้ ขยายจุดชาร์ตไฟเพิ่มขึ้นคันละ 1.5 แสนบาท

ACE

ลงนาม PPA ขายไฟฟ้าให้กับ กฟภ. โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 8 โครงการ กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ เตรียมเดินหน้าก่อสร้าง 10 เดือน มั่นใจ COD ก่อนกำหนด

CENTEL

เผยอัตราเข้าพักโรงแรมในมัลดีฟส์เดือน ม.ค.65 พุ่ง 83-86% มากกว่าปี 62 ขณะที่โรงแรมที่ภูเก็ตจยังทำผลงานได้ดี ด้านธุรกิจอาหารฟื้นตัวต่อเนื่อง

Report & Corporate News

BTS Maintained BUY TP : 10.40 บาท

BTS ประกาศการเติบโตของกำไรหลักที่แข็งแกร่ง qoq ใน 3QPY22 เนื่องจาก: 1) รายการพิเศษเพียงครั้งเดียวจากบริษัทร่วม, 2) การฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสาร, รายได้จากการก่อสร้าง, รายได้จากการโฆษณา และ 4) การเติบโตของยอดขายค้าปลีก แม้เราคาดว่ารายได้จากการก่อสร้างจะลดลงเมื่อเข้าสู่ช่วงขั้นตอนสุดท้ายของการก่อสร้าง แต่เราคาดว่าจะมี potential upside risk จากความเป็นไปได้ที่จะได้รับการขยายสัมปทาน 30 ปี คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 10.40 บาท

PTTGC Maintained HOLD TP : 57.00 บาท

PTTGC รายงานกำไรสุทธิที่น่าผิดหวังใน 4021 ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเราและตลาดที่ 44% และ 39% ตามลำดับ จากการบันทึกค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำที่ไม่คาดคิดจำนวนมาก เรากังวลว่ากำไรของ PTTGC จะยังคงอ่อนแอใน 1-22 จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูง, การปิดโรงงานหลายแห่ง และอุปทานโพลีโอเลฟินที่ พิ่มขึ้นจำนวนมากในตลาด เราแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนไปลงทุนใน IVL และ PTTEP คงคำแนะนำ ถือ ราคา เป้าหมายที่ 57.00 บาท

VGI Maintained HOLD TP : 5.90 บาท

VGI รายงานผลขาดทุนใน 3QPY22 โดยส่วนใหญ่ถูกกดดันจากผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่ของบริษัทร่วม อย่างไรก็ตาม รายได้โดยรวมฟื้นตัวได้ดีจากการฟื้นตัวของรายได้จากการโฆษณา และการเติบโตของยอดขายค้าปลีก เราจะปรับประมาณการและคำแนะนำในการประชุมนักวิเคราะห์ที่กำลังจะจัดขึ้น คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายที่ 5.90 บาท

KTC Maintained SELL TP : 48.00 บาท

ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อจำนำทะเบียนปี 2022 อยู่ที่ 11.5 พันลบ. (จากเดิม 2.5 พันลบ.) แม้เราจะปรับประมาณการกำไรของ KTC เพื่อคำนึงถึงแนวโน้มธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนที่ดีขึ้น แต่เราเชื่อว่าเป้าหมายที่ผู้บริหารตั้งไว้มีมุมมองเป็นบวกเกินไปและยากที่จะบรรลุ นอกจากนี้ Valuation ของหุ้นยังค่อนข้างแพง คงคำแนะนำ ขาย ราคาเป้าหมายที่ 48.00 บาท

 

- Advertisement -