UPA ไฟเขียวแตกไลน์ธุรกิจ เข้าลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโทเคอร์เรนซีใน สปป.ลาว มูลค่ากว่า 817.7 ล้านบาท พร้อมสั่งซื้อเครื่องขุดเหรียญคริปโตฯ รวม 8,000 เครื่อง ระบุเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสามารถผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมปักหมุดปี 65 ผลงานโตก้าวกระโดด

 

นายกวิน เฉลิมโรจน์  ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการเข้าลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโทเคอร์เรนซี หรือการขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Mining) ในสปป.ลาว ในวงเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 817.7 ล้านบาท

ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวจะแบ่งเป็น UPA และ Asia Investment and Financial Services Sole Company Limited (AIFS)  จะถือหุ้นร่วมกันในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ (Singapore Holding) และ Singapore Holding จะถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใน สปป.ลาว (Laos Holding) และ Laos Holding จะเข้าลงทุนร่วมกับหุ้นส่วนใน สปป.ลาว เพื่อถือหุ้นในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใน สปป.ลาว เพื่อขอรับใบอนุญาตสำหรับการทำธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี (Operating Company) ในสัดส่วนร้อยละ 50 และ ร้อยละ 50 ตามลำดับ ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดย UPA และ AIFS ผ่าน Laos Holding จะเป็นผู้รับผลประโยชน์ (เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีที่ขุดได้) และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของ Operating Company ที่ได้รับจากเหมืองขนาด 30 เมกะวัตต์  โดยจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว จำนวน 30 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการซื้อไฟฟ้าจำนวน 20 เมกะวัตต์ ที่เหมืองที่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ซึ่งสามารถรองรับเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซีได้ถึง 6,000 เครื่อง และการซื้อไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ เพื่อสำรองการขยายโครงการ

นอกจากนี้ บริษัทจะลงทุนในเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี จำนวนไม่เกิน 2,000 เครื่อง เพื่อเข้าทำสัญญากับบริษัทใน สปป.ลาว ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี โดยบริษัทมีหน้าที่จัดหาเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี และคู่สัญญามีหน้าที่ดำเนินการธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งรวมถึงการจัดหาและรับผิดชอบค่าไฟฟ้า คนงาน และค่าใช้จ่ายๆ อื่น  โดยจะแบ่งสัดส่วนการแบ่งผลประโยชน์ร้อยละ 60 และ ร้อยละ40 ตามลำดับ  ซึ่งบริษัทได้รับผลประโยชน์ในสัดส่วนร้อยละ 60 และคู่สัญญาได้รับผลประโยชน์ร้อยละ 40 ของเหรียญที่สามารถขุดได้

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนให้หุ้น หรือการลงทุนในทรัพย์สินนั้น จะเป็นการขุดคริปโทเคอร์เรนซีสกุลบิทคอยน์เป็นหลัก รวมทั้งสามารถพิจารณาปรับเครื่องขุดบางส่วน เพื่อขุดคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่น เช่น อีเธอร์ (Ether) หรือไลท์คอยน์ (Litecoin) ได้ ขณะที่วงเงินการลงทุนในหุ้นและการลงทุนในทรัพย์สิน โดยสามารถทยอยลงทุนเป็นเฟสๆ เช่นกัน

“การเข้าลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ที่ผ่านมาได้มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนี้เป็นอย่างดี และใช้เวลามาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับธุรกิจ และเพิ่มยอดรายได้และกำไรให้แข็งแกร่ง นอกเหนือจากธุรกิจในพอร์ต ธุรกิจโรงไฟฟ้า อสังหาฯ เป็นต้น  อีกทั้งยังเป็นการผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 จะเห็นการเติบโตก้าวกระโดด จากการทยอยรับรู้รายได้จากผลตอบแทนในการลงทุนในโครงการต่างๆตลอดปีที่ผ่านมา  รวมทั้งการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายการลงทุนในทุกธุรกิจอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

*********

- Advertisement -