ภาพรวมวันนี้กลางๆ และเริ่มกลับมากังวลกับสงครามรัสเซีย – ยูเครนอีกครั้ง

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติ (1) แพคเกจ EV เบื้องต้นจะช่วยเงินอุดหนุน 70,000 – 150,000 ต่อคัน ทั้งนี้หากค่ายรถใดก็ตาม ประสงค์เข้าร่วมโครงการอดหนุนภาษีกับภาครัฐจะต้องผลิตในอัตราส่วน 1.5x กล่าวคือ นำเข้ามา 1 คัน จะต้องผลิตในประเทศไทย 1.5 คัน มองหุ้นได้ประโยชน์สูงสุด ได้แก่ EA แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาสูง มองว่าสะท้อนไปพอสมควรแล้ว (2) ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงราว 3 บาท มองว่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มปั๊มน้ำมัน (OR PTG) เนื่องจากค่าการตลาดที่เป็นกำไรหลักจะไม่ถูกเข้มงวดมากนักจากทางภาครัฐ และด้วยราคาหน้าปั๊มที่ลดลงจะช่วยเป็นตัวหนุนปริมาณขายให้สูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนทำให้กลุ่มปลีก (BJC CRC CPALL) ได้ประโยชน์ทางอ้อม จากการที่ประชาชนจะมีกำลังซื้อที่มากขึ้นตามราคาน้ำมันที่ลดลงจากภาครัฐ ส่วนปัจจัยต่างประเทศเมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งมาก +3.8%MoM สูงกว่าตลาดคาดที่ +2.1%MoM กดดัน Dow Jones ปรับฐานในช่วงแรกของการเปิดทำการ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น FED ได้เปิดเผยรายงานผลการประชุมเดือนม.ค. คณะกรรมการได้แถลงว่าการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามาในแต่ละครั้งของที่ประชุม

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามสถานการณ์รัสเซีย – ยูเครนใกล้ชิดอีกครั้ง เนื่องจากล่าสุดมีรายงานออกมาว่ายังไม่เห็นการถอนกำลังทหารของรัสเซียและมีการเพิ่มจำนวนขึ้นด้วย สอดคล้องกับราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบที่กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง บ่งชี้ถึงว่าตลาดยังคงกังวลกับประเด็นสงคราม ด้าน Nikkei เช้านี้ก็ยังแกว่งซึมตัว (-0.26%) ทิศทาง SET INDEX วันนี้จึงประเมินเคลื่อนไหวในกรอบ 1695–1707 โดยมีปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg คาดที่ 2.17 แสนตำแหน่ง หากต่ำกว่าคาดก็มีโอกาสที่ตลาดจะกังวลกับเงินเฟ้อต่อเนื่อง

เชิงกลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้นยังสามารถ Trading ได้ในกลุ่มน้ำมัน (PTT PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับ Valuation ตลาดที่ค่อนข้างสูง ทำให้เรามองว่าการทยอยสะสมยังไม่ต้องรีบแต่อย่างใด และบริเวณ 1,700 มองเป็นโซนของการ Trading เท่านั้น

TOP (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 67 บาท) กำไรสุทธิ 4Q21 อยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท (-31% YoY, +144% QoQ) แตะจุดสูงรอบ 4 ไตรมาส สอดคล้องกับคาดการณ์ภาพรวมปี 2022 เป็นบวก คาดค่าการกลั่นจะแข็งแกร่งต่อเนื่องไปถึง 1Q22 และต่อจากนั้นหนุนจากส่วนต่างราคาเบนซิน เชื้อเพลิงอากาศยาน และดีเซลที่แข็งแกร่ง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก คาดบริษัทรับรู้กำไรเต็มปีจาก CAP ในปี 2022 ขณะที่อุปทานใหม่จะฉุดส่วนแบ่งกลุ่มปิโตรเคมี ต่อเนื่อง

KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 95.75 บาท) ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมา 35% มองว่าสะท้อนความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าของการผลิตไปพอสมควรแล้ว ขณะที่ภาพระยะยาวไม่เปลี่ยนจาก Mega Trend (EV IOT Metaverse) ทำให้มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างน่าสนใจสำหรับทยอยสะสม

- Advertisement -