บล.ไอร่า:

PTT – PTT PCL. ผลการดำเนินงานของธุรกิจหลัก ทั้งก๊าซ สำรวจและผลิตปิโตรเลียมเคมี และการกลั่น และ OR ยังไปได้ดี จับตา NewS-Curve เข้าสู่ EV Value chain

  • PTT ประกาศผลการดำเนินงาน 4Q/64 มีกำไรสุทธิ 27,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% qoq และ 110% yoy ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด โดยรับรู้ผลการดำเนินงานที่ลดลง 37% qoq จาก PTTEP ในขณะที่รับรู้กำไรจากสต็อกน้ำมันลดลง 3,432 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 3Q/64 ในขณะที่ผลการดำเนินงานธุรกิจก๊าซซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ PTT เอง มี EBITDA ลดลง 18% qoq แต่เพิ่มขึ้น 19% yoy ส่วนใหญ่มาจาก EBITDA ที่ลดลง qoq จากธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซ ซึ่งต้นทุนก๊าซเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าราคาขาย ในขณะที่ธุรกิจโรงแยกก๊าซมี EBITDA เพิ่มขึ้น 3% qoq จากราคาขายของโรงแยกก๊าซที่เพิ่มขึ้นตามราคา HDPE นอกจากนี้ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และการป้องกันความเสี่ยงรวมจำนวน 4,967 ล้านบาท
  • EBITDA จากธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นลดลง 22% qoq แม้ธุรกิจโรงกลั่นจะฟื้นตัวขึ้น และมีกำไรจากสต็อกน้ำมันและธุรกิจปิโตรเคมี ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ลดลงจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทา และก๊าซ LPG ที่มีราคาสูงขึ้น
  • OR มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 24% qoq แม้ค่าการตลาดลดลงเล็กน้อย แต่ปริมาณขายน้ำมันและธุรกิจ non-oil ฟื้นตัวดีจากการคลาย lockdown
  • ประเด็นที่น่าจับตาคือกลยุทธ์สำคัญของ PTT ที่เข้าสู่ new S-curve ในธุรกิจ EV Value chain ทั้งการจัดตั้งบริษัท Arun Plus และจะร่วมมือกับพันธมิตรในการบุกเบิกธุรกิจ EV ในไทย เช่น การจัดตั้งโรงงานผลิตรถไฟฟ้าร่วมกับ Foxconn คาดจะเริ่มผลิตรถไฟฟ้าจำนวน 50,000 คัน ในปี 2567 (แบบ OEM), ด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จะได้ความร่วมทั้งจาก GPSC ในการผลิตแบตเตอรี่ และ IRPC ด้านการผลิตเม็ดพลาสติกเฉพาะทาง  นอกจากนี้ยังบุกเบิกธุรกิจ E- Bus และธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยการร่วมมือกับ Swap&Go
  • ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี ’65 อยู่ที่ 48.00 บาท (SOTP)
- Advertisement -