Daily Focus Earnings and Value Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,703 จุดในช่วงเปิดตลาด จากแรงกดดันเรื่องความตึงเครียดในยูเครน ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาและปิดบวกเล็กน้อย 1.62 จุด ณ สิ้นวัน หนุนโดย TRUE DTAC และ BTS ที่ปรับตัวขึ้นเด่น อย่างไรก็ตาม สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.3 พันลบ.และ 1.8 พัน ลบ. ตามลำดับ (สถานะใน SET50 Index Futures ไม่มีนัยยะนัก)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังแกว่งผันผวนและยังมีโอกาสพักตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,700-1,705 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ยังค่อนข้างเป็นลบ โดยสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนยังคงเป็นปัจจัยกดดันหลัก หลังหลายชาติตะวันตกระบุรัสเซียเตรียมโจมตียูเครน ทำให้เม็ดเงินยังคงไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงสูงอย่างหุ้นเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างพันธบัตร และโดยเฉพาะสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองค่าที่พุ่งแรงทะลุ US$1,900 ต่อออนซ์แล้ว เราเชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยจะไม่สูงนัก เนื่องจากเศรษฐกิจเกี่ยวเนื่องกับยูเครนค่อนข้างน้อย แต่หากกรณีแย่สุดเกิดสงครามจะเกิดผลกระทบทางอ้อมในแง่เศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เรายังคงให้น้ำหนักบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ แม้การระบาดของโอมิครอนจะเร่งตัว แต่คาดภาครัฐจะไม่มีมาตรการคุมเข้มและ Lockdown เหมือนในอดีต และคาดว่าหุ้น Domestic และ Value Play โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ จะยังเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด กลยุทธ์ยังเน้นลงทุนในหุ้นที่คาดมีกำไร 4Q21 แข็งแกร่งและ PER/PBV ไม่สูง
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้น Value และมีแนวโน้มกําไร 4Q21 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : GFPT, HMPRO, PJW, SC, TKS
หุ้นเด่นวันนี้ : PJW
• แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6 บาท
• กำไร 4Q21 ทําจุดสูงสุดของปีที่ 50.2 ลบ. +63% Q-Q, -15% Y-Y ดีกว่าคาด 2% ตามการ Reopening หนุน Demand บรรจุภัณฑ์พลาสติกฟื้นตัว ส่งผลให้กำไรทั้งปี 2021 +47% Y-Y
• ธุรกิจ Medical Plastic จะเริ่มสร้างรายได้ในปี 2022 เราคาดกำไรปี 2022-2024 +15% CAGR และระยะยาวจะสามารถต่อยอดฐานลูกค้ากลุ่มยานยนต์ปัจจุบันไปยัง ชิ้นส่วนพลาสติกของ EV ในอนาคต
• แนวรับ 4.80-4.70 บาท แนวต้าน 5-5.10//5.50 บาท
Fund Flow: เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคแต่บางลงเหลือ US$223ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$308 ล้าน ส่วนตลาดอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน โดยไหลเข้าอินโดนีเซีย แต่ไหลออกจากไทยปริมาณใกล้เคียงกันที่ US$55 56 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดมีโอกาสพลิกมาไหลออกจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนที่ยังน่าเป็นห่วงและยังมีความเสี่ยงเกิดสงคราม
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) DTAC-TRUE บอร์ดมีมติควบรวมกิจการ โดยกำหนดอัตราแลกหุ้น 1 หุ้น DTAC ต่อ 6.13444 หุ้นบริษัทใหม่ และ 1 หุ้น TRUE ต่อ 0.60018 หุ้นบริษัทใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังต้องผ่านขั้นตอนหลักประชุมผู้ถือหุ้น การอนุมัติจากกสทช.และกขค. กรณีผ่านทุกขั้นตอนและการควบรวมเกิดขึ้นจะเป็นบวกกับอุตสาหกรรมในแง่การแข่งขันที่ลดลง และเอื้อต่อการทำกำไร ราคาเป้าหมายจาก FSSIA สำหรับ DTAC อยู่ที่ 42 บาท TRUE อยู่ที่ 4.20 บาท และ ADVANC อยู่ที่ 260 บาท เรายังชอบ ADVANC มากที่สุด (The Chairman Of The Board of Finansia Syrus Securities PCL is also TRUE’s Director)
(0) CBG กําไร 4Q21 +2% Q-Q, -30% Y-Y ใกล้เคียงคาด โดยการฟื้นตัวยังค่อนข้างช้า และถูกกดดันจากต้นทุนอลูมิเนียมอย่างต่อเนื่อง ทำให้จบปี 2021 กำไร -18% Y-Y เราคาดแนวโน้ม 1Q22 จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยยังคาดกําไรปี 2022 +25% Y-Y ยังคงราคาเป้าหมาย 158 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)
(+) GULF กำไร 4Q21 แข็งแกร่ง +92% Q-Q, +65% Y-Y ได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH และ Operation โรงไฟฟ้าที่ดีขึ้น หนุนทั้งปี 2021 +80% Y-Y แนวโน้มปี 2022 คาดแกร่งต่อเนื่อง +76% Y-Y ทั้งจากส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH เต็มปี และเดินหน้าธุรกิจ Data Center กับ Singtel และ ADVANC หนุนการเติบโตด้าน Digital ระยะยาว คงราคาเป้าหมาย 60 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)
(0) STA คาดกําไร 1Q22 ยังอ่อนตัวลงต่อ เพราะราคาขายถุงมือยังยังปรับลงราว -18% Q-Q ขณะที่ธุรกิจยางธรรมชาติยังมีแนวโน้มสดใสตลอดปี 2022 และอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตเพิ่ม ขณะที่ราคายางแท่ง SICOM ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ด้วยธุรกิจถุงมือยางที่ลดลงเร็วกว่าคาด เราจึงปรับลดกำไรสุทธิปี 2022 ลงเป็น -60% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 31 บาท คงคำแนะนำ “เก็งกำไร” กำไร 4Q21 ยังลดลงต่อเนื่องจากธุรกิจถุงมือยาง
(0) MAKRO ประกาศกำไรสุทธิ 4Q21 โตแรง เพราะมีกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ส่วนกำไรปกติ +51% Q-Q, +12% Y-Y ดีกว่าตลาดคาด 12% จาก SSSG ของ MAKRO ที่แข็งแกร่ง ขณะที่ Lotus’s คาดเริ่มทยอยฟื้นใน 1Q22 เป็นต้น เรายังคงราคาเป้าหมาย 52 บาท Upside แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 232.85 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 34,079.18 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ กดดันจากรายงานข่าวรัสเซียวางแผนที่จะใช้ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกับรัฐบาลยูเครนเป็นเหตุผลสนับสนุนการบุกโจมตียูเครน
(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.13 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 69 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 91.07 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากมีรายงานว่าใกล้มีการบรรลุข้อตกลงในการเจรจาด้านนิวเคลียร์กับอิหร่าน
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,899.8 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงขายทำกำไรหลังราคาปรับขึ้นในช่วงก่อนหน้า
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,024.09 / +4.65