บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Siam Makro (MAKRO.BK/MAKRO TB) ผลประกอบการ 4Q64: โมเมนตัมเป็นบวก

Event

ผลประกอบการ 4Q64, ปรับราคาเป้าหมายและคำแนะนำ

Impact

ผลประกอบการ 4Q64

กำไรสุทธิของ MAKRO ใน 4Q64 อยู่ที่ 9 พันล้านบาท (+327% YoY, +479% QoQ) ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2564 อยู่ที่ 1.37 หมื่นล้านบาท (+109% YoY) แต่หากไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (กำไร ทางบัญชีจากการรวมธุรกิจแบบขั้น) 6.7 พันล้านบาทใน 4Q64 กำไรปกติจะอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (+12% YoY, +51% QoQ) สูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด 13% ซึ่งจะทำให้กำไรปกติในปี 2564 อยู่ที่ 7 พันล้านบาท (+6% YoY)

อนุมัติจ่ายเงินปันผล

คณะกรรมการของ MAKRO อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2H64 ที่ 0.32 บาท/หุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 3 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 คิดเป็นการจ่ายปันผลรวม 0.72 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลรวมที่ 1.7% จากราคาปิดล่าสุด

การฟื้นตัวของผลประกอบการ และ Synergy รออยู่ข้างหน้า

MAKRO รับโอนธุรกิจทั้งหมดจาก C.P. retail Holding Company Limited (CPRH) เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ส่งผลให้ MAKRO เข้าไปถือหุ้น 99.99% ใน Lotus’s Thailand และ Lotus s stores (Malaysia) Sdn. Bhd. การที่ดีลนี้เสร็จเรียบร้อย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ทำให้เราคาดว่าผลประกอบการของ MAKRO มีแนวโน้มจะดีขึ้นจาก 7 พันล้านบาทในปี 2564 เป็น 1.28 หมื่นล้านบาทในปี 2565 และเป็น 1.6 หมื่นล้านบาทในปี 2566 ซึ่งแทบจะหักล้างผลของ dilution ที่เกิดจากการขายหุ้นแบบ public offering ไปได้ทั้งหมด โดยเราคาดว่า EPS ปี 2565 จะทรงตัว YoY และจะพุ่งขึ้นถึง 28% YoY ในปี 2566 จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นตามโครงสร้างยอดขายที่ดีขึ้น (จากประมาณ 10% เป็น 14% จากการเพิ่มขึ้นของธุรกิจค้าปลีก) รวมถึง ประสิทธิภาพในด้านต้นทุนจากการบริหารจัดการ supply chain และทำให้ EBIT margin เพิ่มขึ้นจาก 3.9% ในปี 2564 เป็น to 5% ในปี 2566

Valuation & action

เพื่อสะท้อนถึง synergy หลังจากการเข้าซื้อกิจการ Lotus’s และผลประกอบการที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown เราจึงใช้ PER แบบมี premium ที่ 35.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของ MAKRO และ C.P. All (CPALL.BK/CPALL TB)* +1.0 S.D.) โดยอิงจาก EPS ปี 2566 และ discount กลับมา โดยใช้ WACC ที่ 7.2% ทำให้ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 50 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากเหลือ upside จากราคาปิดล่าสุดอีก 17%  ในขณะที่แนวโน้มยังดูสดใส เราจึงกลับมาศึกษาหุ้น MAKRO โดยปรับเพิ่ม คำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาสินค้าเกษตรลดลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าแผนที่กำหนดไว้, disruption ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการในต่างประเทศ

- Advertisement -