ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียน : 19838)

ปรับลงต่อ รัสเซีย-ยูเครนตึงเครียด กดดันจิตวิทยาช่วงสั้น

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคารปรับลดลงต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยลดลงแรงกว่าที่เราคาด ตามปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนระหว่างรัสเซียและยูเครยน รวมทั้งการที่ ก.สาธารณสุขได้ยกระดับการเตือนภัย COVID-19 กลับขึ้นมาเป็นระดับ 4… ส่วนในวันนี้ เราคาดว่าตลาดการเงินโลกจะยังอยู่ในภาวะกังวลสงคราม  หลังจากเช้ามืดวันนี้รัสเซียประกาศรับรองเอกราชให้กับ 2 แคว้นแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ได้แก่ แคว้นโดเนสต์ และแคว้นลูฮันส์ และส่งกำลังทหารเข้าไปรักษาความสงบในแคว้นดังกล่าว ล่าสุดสหรัฐฯ ประกาศตอบโต้โดยการออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับ 2 แคว้นดังกล่าวในทันที เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อความขัดแย้ง ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดลงประมาณ 1.4% ณ เวลา 8.30 น. ขณะที่เมื่อคืนนี้ ตลาดการเงินของสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องจากในวันประธานาธิบดี (President Day)… ส่วนปัจจัยภายในประเทศนั้น เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทรงตัวในระดับสูงที่ 18,363 ราย เสียชีวิต 35 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 15,651 ราย ขณะที่ ในวันนี้จะมีการประชุม ครม. ประจำสัปดาห์ น่าติดตามว่าจะมีการเสนอประเด็นต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหรือไม่ หลังจากผู้เกี่ยวข้องได้นำกลับไปศึกษาเพิ่มเติมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียน : 28668)

เก็งกำไร LEO, MAKRO, MAJOR*

  • LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.8 บาท / แนวต้าน 15.5 – 16.0 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 16.5 บาท (Stop loss 14.1 บาท) 2) รายงานกำไร 4Q64 = 77.7 ล้านบาท โตเด่นทั้ง YoY QoQ และกำไรปี 2564 – 199.7 ล้านบาท ดีกว่าคาด +15% 3) คาดมีโอกาสปรับประมาณการฯปี 2565 ขึ้นจาก i) การซื้อธุรกิจขนส่งทางอากาศล่าสุด เรายังไม่ได้รวมในประมาณการฯ ) คาดมีดีลลงทุนเพิ่มเติมอีกในปีนี้เป็น Upside 4) คาดค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์จะฟื้นตัวกลางปีนี้ หลังจากชะลอ QoQ ใน 1Q65 ตามการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจโลกหลังโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย
  • MAKRO (เป้าพื้นฐาน 50 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 42.5 บาท / แนวต้าน 44 – 46 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 48 บาท (Stop loss 41 บาท) 2) รายงานกำไรจากการดำเนินงานใน 4Q64 (ไม่รวมกำไรพิเศษ) = 2.4 พันล้านบาท (+12% YoY, +51% QoQ) ดีกว่า Consensus คาด +13% 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565 จะเติบโตต่อเนื่อง +83% YoY จากการรวมผลการดำเนินงานของ Lotus เข้ามา และคาดยอดขายกลุ่ม Horeca ฟื้นตัวรับการฟื้นตัวของผู้ประกอบการร้านอาหารและการท่องเที่ยว
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.6 บาท / แนวต้าน 21.5 – 22.0 บาท (Stop loss 20.2 บาท) 2) รายงานกำไร 4Q64 = 100 ล้านบาท พลิกกลับมากำไรได้ดีกว่าที่คาด +89% พร้อมประกาศปันผล 0.6 บาท/หุ้น XD 21 เม.ย.) 3) คาดสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายขึ้น จะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของ MAJOR ปีนี้ Turnaround เป็นกำไรได้ราว +/- 600 ล้านบาท ขณะที่ PBV 2.6 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่ที่ 3.3 เท่า)

หุ้นมีข่าว

(+) FTSE เพิ่มน้ำหนัก 3 หุ้น CPALL*- CPF*-MAKRO (ข่าวหุ้น) FTSE Rebalance ประกาศเพิ่มน้ำหนัก ลงทุน 3 หุ้นเด่นกลุ่มซีพี เม็ดเงินรวม 3.35 พันล้านบาท นำโดย CPALL*, CPF* และ MAKRO กองทุน PASSIVE FUND เข้าซื้อ ณ ราคาปิด 18 มี.ค.นี้ ขณะที่ TIPH, JTS และ SINGER* เข้าคำนวณ FTSE Small Cap รอบนี้ ส่วน FTSE Micro Cap หุ้นไทยเข้า 35 หุ้น

(+) PSH* จ่อเปิด 31 โครงการ 1.63 หมื่นล. ปักธงปีนี้รายได้ 3.3 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) ยอดขาย 3.1 หมื่น ล้าน PSH วาง 4 กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจปี 65 ลั่นเป้ารายได้รวมปี 65 แตะ 33,000 ล้านบาท จ่อโอน 7 คอนโดมิเนียมใหม่ พร้อมวางเป้ากวาดยอดขายรวมปีนี้ 31,000 ล้านบาท เล็งเปิดใหม่ 31 โครงการ มูลค่ารวม 16,300 ล้านบาท ทุ่มงบลงทุน 3,500 ล้านบาท ลุยธุรกิจใหม่ใน 3 ปีจากนี้ เพื่อสร้างรายได้ประจำ

(+) OR ซุ่มดีลซื้อกิจการร่วมทุน ศึกษาโทเคน-กัญชง-กัญชา (ทันหุ้น) OR คาดปิดดีล M&A-JV ไม่ต่ำกว่า 3-4 ดีลภายในปีนี้ คาดยอดขายน้ำมันโตตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว คาดราคาน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีที่ 78.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล วางงบลงทุน 5 ปี 9.3 หมื่นล้านบาท เน้นปรับโครงสร้างรายได้เพิ่ม EBITDA รองรับขยายสาขาทั้งในประเทศ-ตปท. รับศึกษาเรื่องโทเคนและกัญชง-กัญชา

(-) ธปท.คาดแนวโน้ม “หนี้เสีย” จ่อฟัง (กรุงเทพธุรกิจ) หนุน “แบงก์” เร่งช่วยลูกค้า “ธปท.” คาดหนี้เสีย จ่อ ปรับเพิ่มขึ้น เร่งธนาคารพาณิชย์เดินหน้าช่วยลูกหนี้ ส่วนผลดำเนินงานแบงก์ทั้งระบบปี 64 แข็งแกร่ง “เงินกองทุนสำรองแน่นปึก

(+) JP รุกตลาดยาสมุนไพรสำหรับสัตว์ ชูรง. ลำพูนได้มาตรฐาน GMP PIC/s (ข่าวหุ้น) “โรงงานเภสัช อุตสาหกรรม เจเอสพีฯ” หรือ JP พร้อมต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร สำหรับคนสู่การขยายตลาดผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรสำหรับสัตว์ สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ มาตรฐานการผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานการผลิตยา GMP PIC/s ที่ลำพูน ป้อนความต้องการตลาด พร้อมเตรียมขอขึ้นทะเบียนยาสมุนไพรใช้บำรุงรักษาสัตว์

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BH* (เป้าพื้นฐาน 148 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 149 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 16 บาท) แนวรับ 15.2 บาท / แนวต้าน 15.7 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 15 บาท)
  • INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 89.5 บาท) แนวรับ 77.5 บาท / แนวต้าน 79 – 82 บาท (Stop loss 77 บาท)
  • SHR (เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท) แนวรับ 3.4 บาท / แนวต้าน 3.5 – 3.6 บาท (Stop loss 3.36 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • PSH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรจากการดำเนินงานปี 2565 จะโต +40% YoY และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 1.63 หมื่นล้านบาท ฝ่ายวิจัยฯปรับเป้าหมาย PE ขึ้นเป็น 11.3 เท่า หรือ +1.0 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต (เดิม 9.6 เท่า) ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 17.5 บาท (เดิม 16 บาท) คงคำแนะนำ “ซื้อ”
  • SVI แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 9.4 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก คาด Demand ที่แข็งแกร่งหนุนยอดขายและกำไรให้ปี 2565 – 66 เติบโตทำจุดสูงสุดใหม่ ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯขึ้น และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.4 บาท (เดิม 8.5 บาท) แต่ Upside จากราคาเป้าหมายใหม่ยังจำกัด จึงแนะนำเพียง “ถือ” แต่นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรจากผลประกอบการที่คาดจะโตเด่นใน 1H65

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -