AGE ท็อปฟอร์ม ประกาศผลการดำเนินงานปี 2564 ทุบสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ยอดขายถ่านหินพุ่งทำนิวไฮ แตะ 5.1 ล้านตัน รายได้โลจิสติกส์โดดเด่นที่ 2,002 ล้านบาท รายได้รวมเพิ่มขึ้น 63% ที่ 12,883 ล้าน ขณะที่กำไรสุทธิ แตะ 638 ล้าน เพิ่มขึ้น 158% ขานรับราคาถ่านหินขาขึ้น ธุรกิจโลจิสติกส์สดใส ด้านบอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลทั้งหุ้น เงินสด จำนวน 0.2695 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นหุ้นปันผล 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และเงินปันผลที่ 0.207 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 14 มีนาคมนี้ ด้านแผนงานปีนี้ รุกขยายฐานธุรกิจถ่านหินทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่อง พร้อมขยายการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 1.5 หมื่นล้าน ยอดขายถ่านหิน 6.5 ล้านตัน
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 ถือว่าเป็นปีที่มีความโดดเด่นและมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการขยายยอดขายถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มขึ้น และรายได้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่ AGE เป็นผู้ประกอบการจัดหา และจัดจำหน่ายถ่านหิน สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ ที่มีความพร้อมทั้งด้านการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีระบบโลจิสติสก์ที่ครบวงจร ทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าราคาถ่านหินโลกช่วงปีที่ผ่านมามีความผันผวนค่อนข้างสูง โดยในปี 2564 มีรายได้รวมจากธุรกิจถ่านหินและธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์ 12,883.6 ล้านบาท เติบโต 63.1% และกำไรสุทธิ 638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157.6% เมื่อเทียบกับ 2563 ซึ่งผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
ทั้งนี้ อัตราการเติบโตดังกล่าว แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ธุรกิจถ่านหิน 12,413.7 ล้านบาท เติบโต 64.4 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมียอดขายถ่านหินในต่างประเทศ อยู่ที่ 0.3 ล้านตัน ลดลง 48.61% เมื่อเทียบกับปี 2563 และปริมาณยอดขายถ่านหินในประเทศ อยู่ระดับ 4.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีปริมาณยอดขายถ่านหินรวมอยู่ที่ 5.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบกับปี 2563 นับว่าเป็นสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์มีการขยายตัวอย่างโดดเด่นมาก โดยในปี 2564 มีรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ 2,002 ล้านบาท เติบโต 40% เมื่อเทียบกับ 2563 โดยแบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มบริษัทในเครือ AGE จำนวน 1,532 ล้านบาท และรายได้จากให้บริการกับกลุ่มลูกค้าภายนอก 470 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วยรายได้การให้บริการบริษัทในเครือที่ 76.5% และให้บริการกลุ่มลูกค้าภายนอกที่ 23.5%
จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมกาบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล แบ่งเป็นการจ่ายจากหุ้นปันผล ในอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายหุ้นปันผลในอัตราหุ้นละ 0.0625 บาท และจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตรา 0.2070 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้มีอัตราการจ่ายปันผลรวม 0.2695 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 14 มีนาคม และเตรียมจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมถ่านหินในปี 2565 ปัจจุบันมีสัญญาณความต้องการใช้ถ่านหินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังมีต่อเนื่อง เพราะถ่านหินถือเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนที่ต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนเชื้อเพลิงจากชนิดอื่นๆ โดยคาดการณ์ว่า การใช้เชื้อเพลิงถ่านหินในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยยังมีปริมาณที่คงที่ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ส่วนแนวโน้มการเติบโตของ AGE ในปี 2565 บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดธุรกิจถ่านหินทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำ ทางบก ท่าเรือ คลังสินค้า โดยขยายการให้บริการขนส่งสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น และได้มีการเซนต์สัญญาการให้บริการขนส่งสินค้าล่วงหน้า จำนวน 3 ล้านตันในเวลา 3 ปี ส่งผลให้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2565 ที่ระดับ 15,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปริมาณยอดขายถ่านหิน 6.5 ล้านตัน
*****
