NV ได้ฤกษ์เปิดตัว 3 พันธมิตรใหม่เสริมแกร่งธุรกิจ รุกขยายฐานตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมเร่งเครื่องพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมพืชสมุนไพรไทย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย ทั้งมีแผนลงทุนขยายโรงงาน สร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ พร้อมปรับปรุงโรงงานเดิมเพื่อผลิตสินค้าประเภทสมุนไพร รวมทั้งโรงงานสกัด เพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เผยล่สุดได้รับการส่งเสริมจาก BOI ในการผลิตสารสกัดจากวัตถุดิบทางธรรมชาติ ได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีอากร มั่นใจช่วยดันรายได้ปีโต 15-20%
นายนวพล จันทร์จุฑามาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (มหาชน) หรือ NV ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ ONUTT, LIVNEST รวมถึงแบรนด์อื่นๆ และรับจ้างผลิตแบบ OEM เปิดเผยว่า การเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ถือเป็นการเพิ่มมาตรฐานในการผลิตและการจัดจำหน่าย รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของบริษัท โดย NV จะนำเงินไปลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ เพื่อขยายและรองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต, การขยายช่องทางการจำหน่ายทางโทรศัพท์, การปรับปรุงโรงงานเดิมเพื่อผลิตสินค้าประเภทสมุนไพรและโรงงานสกัด, การขยายธุรกิจ OEM และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสร้างการเติบโตและผลกำไรอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ หลังเกิดการระบาดของโควิด-19 แนวโน้มความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดบริษัทได้เร่งเดินหน้าขยายธุรกิจ OEM เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจนี้ โดยพันธมิตร 3 รายแรกที่บริษัทจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ของพันธมิตรเอง ประกอบด้วย บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย นายอภิสิทธิ์ อ่อนนวล ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจัดซื้อ แบรนด์ฟรายเดย์ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยนายณวัตน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และบริษัท ออร่า เชพ จำกัด โดย นางสาวบุญญาวัลย์ พงษ์สุวรรณ (ส้มเช้ง สามช่า) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
สำหรับพันธมิตรดังกล่าว มอบหมายให้บริษัทรับหน้าที่ในการคิดค้นสูตรและเป็นผู้ผลิตสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ของพันธมิตรเองที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ รวมถึงเตรียมจับมือพันธมิตรใหม่ขยายธุรกิจเพิ่ม โดยตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มาจาก OEM ประมาณ 5% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
“พันธมิตรทั้ง 3 ราย นับว่ามีความโดดเด่นและสร้างความแตกต่างในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของไทย ขณะที่ความร่วมมือกันในครั้งนี้ นับว่าเป็นการต่อยอดศักยภาพและสร้างการเติบโตของธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในระยะยาวได้อย่างชัดเจน โดยมั่นใจว่า บริษัทจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตในธุรกิจ OEM ได้อย่างต่อเนื่อง” นายนวพล กล่าว
ขณะที่ภาพรวมแนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทมีแผนลงทุนขยายโรงงาน สร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ พร้อมปรับปรุงโรงงานเดิมเพื่อผลิตสินค้าประเภทสมุนไพรและโรงงานสกัด เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทก็ได้รับอนุมัติบัตรส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI ในการผลิตสารสกัดจากวัตถุดิบทางธรรมชาติ หรือการผลิตผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากวัตถุดิบทางธรรมชาติที่ต่อเนื่องในโครงการเดียวกัน และกิจการผลิตอาหารทางการแพทย์ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็น 3 รูปแบบ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์สารสกัดรูปแบบผง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ทั้งนี้ การได้รับอนุมัติบัตรส่งเสริม BOI ดังกล่าว จะทำให้บริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีอากรด้วย
พร้อมกันนี้ บริษัทจะกลับมารุกตลาดผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายทางโทรศัพท์ (Telesales) โดยอยู่ระหว่างการสร้างสำนักงานแห่งใหม่ ย่านบางขุนเทียน รองรับการขยายงาน Telesales ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศและขยายตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้ เติบโตอยู่ที่ 15-20% นับเป็นแผนงานเชิงรุกในธุรกิจ เพื่อสานพันธกิจบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป
******