ITEL ฟอร์มสวย ประกาศผลการดำเนินงานทำนิวไฮ รายได้โต 22% แตะ 2,509 ล้าน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 251 ล้าน เพิ่มขึ้น 37% จากกลุ่มธุรกิจขยายตัวต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการให้บริการโครงข่าย ติดตั้ง และให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ ด้านแผนงานปีนี้ มั่นใจยังโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ที่ 3,200 ล้าน จ่อปิดดีล M&A หุ้นเทคฯ สตาร์ทอัพ พร้อมออกวอแรนต์ เพื่อรองรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจ

 

นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด  (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 2,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 2,059 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 184 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ยุคการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ของประเทศ และเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท ทำให้สามารถผลักดันยอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาใช้งานได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถรักษาฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ และต่อยอดความสำเร็จในการให้ขยายบริการเพิ่มเติม อาทิ งาน Drone & Anti-Drone งาน Smart CCTV  และอื่นๆ โดยอาศัยจุดแข็งจากโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพของการให้บริการที่เหนือกว่าคู่แข่งขันรายอื่นๆ ในตลาด จึงสามารถสร้างรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ที่ 3,200 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10% โดยปัจจุบันมีสัญญาในมือ (Contract on Hand) รวมมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 2,400-2,500 ล้านบาท ทั้งงานบริการโครงข่ายโทรคมนาคม (Data Service) งานบริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) และงานติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม (Installation)

นอกจากนี้ ปีนี้คาดหวังจะได้รับงานใหม่เข้ามาไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 1/65 คาดว่าจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 1,300 ล้านบาท อาทิ โครงการ Course Online มูลค่า 305 ล้านบาท โครงการ USO-TOT มูลค่า 703 ล้านบาท รวมไปถึงงานติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม และงานให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ให้บริการคลาวด์ขนาดใหญ่ระดับโลก (Hyperscale) เพื่อให้เข้ามาใช้พื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์จำนวน 0.6 เมกะวัตต์ และเดินหน้าขยายขนาดด้าต้าเซ็นเตอร์เป็น 2.4 เมกะวัตต์ ด้วยงบลงทุนราว 200 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังเตรียมจะขยายขนาดเป็น 6 เมกะวัตต์ภายใน 2 ปีข้างหน้า ใช้งบลงทุนราว 300-400 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาเข้าซื้อกิจการ (M&A) จำนวน 2 ดีล บริษัทด้าน IT Outsourcing ที่มีความชำนาญด้าน Digital Transformation, Cyber Security และ Software House ที่มีศักยภาพ ส่วนอีกบริษัทจะเน้นในด้านการทำ Social Data Analytic ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำ Due Diligence โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงไตรมาส 2/65

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการออก ITEL-W4 โดยไม่คิดมูลค่า (Free Warrant) ให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกราย จำนวนไม่เกิน 322 ล้านใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่อัตราส่วน 5 หุ้นสามัญต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยมีราคาใช้สิทธิที่ 11.50 บาท และมีกำหนดใช้สิทธิในระยะเวลา 2 ปี เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์เติบโตแบบ Inorganic (ซื้อกิจการ) ในอนาคต โดยจะนำเข้าพิจารณาในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 เมษายนนี้

************

- Advertisement -