BIZ โชว์ผลงานปี 64 สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รายได้โตกระฉูด 2,934.14 ล้านบาท กำไรนิวไฮแตะ 420.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 846.63% พร้อมเตรียมยกระดับย้ายหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้าเทรดใน SET ด้านบอร์ดไฟเขียวแผนเพิ่มทุน 110 ล้านบาท รองรับการจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมทั้งจ่ายเป็นเงินสดในอัตรา 0.42 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 เมษายนนี้

 

นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมจำนวน 2,934.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,169.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 283.48% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 765.13 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 420.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 375.93 ล้านบาท หรือ 846.63% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 44.40 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งมอบงานได้ตามกำหนด

จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น ในอัตรา 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 200 ล้านหุ้น และจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตรา 0.4277777775  บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 เมษายนนี้ โดยบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.25 บาท รวมทั้งปีจ่ายปันผล  เท่ากับ 371,111,111 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลทั้งสิ้นร้อยละ 88.01 ของกำไรสุทธิประจำปี 2564

นอกจากนี้ ยังมีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 110 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 220 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 330 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 220 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล และรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (BIZ-W1)

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งบริษัทมีโอกาสที่จะได้รับงานค่อนข้างมากซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีปริมาณงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้น รองรับรายได้ในระยะยาว โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ จำนวน 1,160 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีมติอนุมัติเตรียมย้ายหลักทรัพย์จดทะเบียนของบริษัทจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) โดยมอบหมายให้ฝ่ายจัดการดำเนินการยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน พร้อมทั้งเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะดำเนินการเข้าจดทะเบียนใน SET  ภายหลังได้รับอนุมัติคำขอจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

ด้านแผนการดำเนินงานปีนี้ คาดว่าจะมีงานใหม่ออกประมูล ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน ไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท และบริษัทมีโอกาสได้งานเพิ่มในหลายโครงการ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงาน ทั้งรายได้และกำไรมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

******

- Advertisement -