ยังน่าจะผันผวนไปตามกระแสข่าวรัสเซีย – ยูเครน (เช้านี้น้ำมันบวกเด่น 5% Trading PTTEP)
วันศุกร์ที่ผ่านมาแม้ตลาดหุ้น Dow Jones จะฟื้นตัวขึ้นมาได้ 2.5% หลังมีรายงานออกมาว่าทางรัสเซียนำมาโดยวลาดิเมียร์ ปูติน พูดคุยกับทางประธานาธิบดีจีน ระบุว่าพร้อมจะเจรจากับรัสเซีย ขณะที่ NATO ได้ยืนยันออกมาว่าจะไม่ส่งทหารเข้ามาในรัสเซียแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ กลับพบว่ารัสเซียยังคงโจมตียูเครนต่อเนื่อง ในวันอาทิตย์ราว 12.20 น. มีรายงานออกมาว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวธุถล่มถังเก็บเชื้อเพลิง และท่อแก๊ส 2 แห่ง ชในทางตอนเหนือของยูเครน ขณะที่ฝั่งสหรัฐและชาติตะวันตกเห็นพ้องต้องกันที่ต้องตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ Swift ผลคือจะทำให้ธนาคารบางแห่งของรัสเซียมิสามารถดำเนินการชำระเงินระหว่างประเทศได้ โดยหลักๆแล้ว สินค้าที่รัสเซียค้าขายกับต่างประเทศมากสุดจะเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 52% ของมูล ค่าส่งออกทั้งหมด ดังนั้นอาจเผชิญปัญหา Supply Disruption จากการขาดแคลนแก๊สธรรมชาติและน้ำมัน ส่งผลให้ราคาแก๊ส, น้ำมันมีโอกาสปรับขึ้น ในสัปดาห์นี้ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซียยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องคอยพิจารณาทั้งสัปดาห์ หากมีข่าวออกมาว่าจะมีการพูดคุยเจรจาโดยสันติวิธี ก็น่าจะทำให้ตลาดผ่อนคลายได้บ้าง (คาดหวังแบบนั้น) แต่หากตรงกันข้ามมีการใช้ความรุนแรงต่อเนื่อง และชาติตะวันตกเข้ามาแทรกแซงมากยิ่งขึ้น ก็อาจทำให้ตลาดปรับฐานต่อได้ ส่วนในประเทศสถานการณ์ COVID-19 ก็เริ่มเป็นปัจจัยที่ต้อคอยติดตามเช่นกัน แม้รัฐบาลจะมิได้ประกาศเข้มงวดมาตรการมาก แต่หากพิจารณาที่ Google Mobility สำหรับการเดินทางไปยังร้านค้าปลีกและศูนย์การค้าพบว่าเริ่มลดลง อาจสร้าง Downside ต่อประมาณการเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนบ้าง โดยเฉพาะกลุ่ม DomesticPlay (ค้าปลีก ร้านอาหาร ท่องเที่ยว) ส่วนปัจจัยอื่นๆในสัปดาห์นี้ นอกเหนือจาก 2 ปัจจัยข้างต้นจะได้แก่ การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q21 คาดจะแล้วเสร็จในวันที่ 2 มี.ค. และประชุม OPEC+ ในวันที่ 2 มี.ค. คาดที่ประชุมจะเพิ่มกำลงัการผลิต 4 แสนบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตาม คาดผลกระทบไม่สูงมากนักต่อราคาน้ำมัน เพราะปัจจุบันปัจจัยที่มีผล ได้แก่ ความตึงเครียดในรัสเซีย-ยูเครน ดังนั้น SET สัปดาห์นี้เชื่อผันผวนไปตามข่าวที่เกิดขึ้น วางกรอบ 1640 – 1700
เชิงกลยุทธ์การลงทุน เช้านี้ราคาน้ำมันดิบ BRT ยังปรับตัวขึ้นเด่นราว 5% พร้อมกับทองคำที่ฟื้นตัวเด่นเช่นกัน Dow Future แกว่งลบอยู่ 1.6% บ่งชี้ถึงความกังวลด้านรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงมีอยู่ระยะสั้น กลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ยังมีโอกาส Trading ได้ ส่วน Domestic หากมีจังหวะปรับฐานก็แนะเป็นโอกาสสะสมได้ เพราะมองว่าการระบาดที่เร็วคาดหวังคาดจบเร็วเช่นกัน คล้ายกับในต่างประเทศ ดังนั้นจะได้รับผลกระทบเพียงช่วงนึงเท่านั้น
PTTEP (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 146 บาท) ภาพรวมกำไรปี 22 เป็นบวก เพราะคาดว่ายอดขายจะโตขึ้น 12%YoY เป็น 467kBOED และราคาขายเฉลี่ยคาดโต 5% เป็น US$46/BOE
CRC (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 41 บาท) กำไรสุทธิใน 4Q21 ที่ 2.4 พันล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิที่ 1 พันล้านบาทใน 4Q20 และขาดทุนสุทธิที่ 2.2 พันล้านบาทใน 3Q21 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 26.9% จาก 26.6% ใน 4Q20 และ 24.0% ใน 3Q21 จากสัดส่วนของธุรกิจแฟชั่น และการขายสินค้าประเภท Private label ที่เพิ่มขึ้น