Our View? ”ย่อก่อนสักพักก็ฟื้น”

คาดตลาดวันนี้ “ย่อตัว” มองแนวรับที่บริเวณ 1,670/1,655 แนวต้านที่บริเวณ 1,690/1,700 คาดเช้านี้ตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบหลังมีการรายงานปธน.วลาดิเมียร์ปูติน ของรัสเซีย สั่งการให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Deterrent Forces) เตรียมพร้อมเป็นพิเศษ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในการใช้กองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ (Strategic Missile Forces) ของรัสเซีย กระตุ้นความกังวลในความรุนแรงระหว่างรัสเซียต่อนาโต้มากขึ้น หลังสหรัฐและชาติพันธมิตรออกมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินรัสเซีย โดยการตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT ซึ่งเป็นตัวกลางสำหรับการโอนเงินข้ามประเทศร วมทั้งมีสนับสนุนทางการเงินและอาวุธแก่ยูเครน คาดสถานการณ์ดังกล่าวจะกดดันทิศทางตลาดอ่อนตัวลงได้อีกคร้ังในระยะแรก อย่างไรก็ตาม เรามองท่าทีของรัสเซียคาดไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณในการใช้อาวุธนิวเครียร์จริง แต่เป็นการข่มขู่ยูเครน-นาโต้เพื่อให้สามารถเข้าร่วมโต๊ะเจรจาอย่างรวดเร็วมากกว่า ซึ่งหากเกิดการเจรจาข้ึนจริง คาดทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นได้อีกครั้งในระยะถัดไป

ขณะที่สัปดาห์นี้เรายังแนะนำให้ติดตามการกล่าวถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ-ธนาคาร เกี่ยวกับนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในรอบครึ่งปี ในวันที่ 2-3 มี.ค. นี้ คาดจะได้รับความชัดเจนเกี่ยวกับท่าทีของ FED ก่อนการประชุม FOMC ในเดือน มี.ค. เรามองว่าความไม่แน่นอนในความตึงเครียดของวิกฤตยูเครนคาดจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ FED อาจหยิบยกขึ้นเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินในระยะถัดไป ซึ่งอาจทำให้ตลาดลดคาดการณ์การข้ึนดอกเบี้ยท่ีรุนแรงและรวดเร็วของ FED ได้ คาดจะช่วยผ่อนคลายทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ในระยะถัดไป

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน เม.ย. แม้คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาเริ่มอ่อนตัวลงแล้วจากแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม ความกังวลในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียหนุนทิศทางราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง โดยเช้านี้แกว่งตัวอยู่ที่ระดับ 95-99 ดอลลาร์/บาร์เรล คาดจะหนุนแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะสั้นอีกครั้ง ท้ังน้ีเรายังคงมองแนวโน้มของสถานการณ์ดังกล่าวที่คาดจะผ่อนคลายมากขึ้นในระยะถัดไป รวมท้ังแนวโน้มการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านคาดยังเป็นปัจจัยกดดันทิศทางราคาน้ำมันดิบ รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงได้ในระยะถัดไป

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง  จากคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังสามารถฟื้นตัวขึ้นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่ม BIG Cap. ปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ทั้งนี้เรายังคงชอบหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (MAKRO, CPALL, BJC, HMPRO, GLOBAL) ที่ยังมีความน่าสนใจในเชิง Valuation ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งหุ้นในกลุ่ม AMC (BAM, CHAYO และ JMT) ที่คาดแนวโน้มการ JV กับธนาคารพาณิชย์ คาดจะหนุนทิศทางผลกำไรในปีนี้เติบโตโดดเด่น และหุ้นในกลุ่มขนส่ง (BTS และ BEM) คาดผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวข้ึนได้หลังผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปแล้ว คาดผู้โดยสารรถไฟฟ้าเริ่มฟื้นตัวข้ึนตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “BEM”

แนวรับ 8.75 / 8.65 Target 9.40 / 10.60 Stop <8.60

- Advertisement -