จับตายูเครน-รัสเซียนัดหารือวันนี้
สรุปภาวะตลาด
วันศุกร์ท่ีผ่านมา ดัชนีปรับตัวรีบาวด์ ราว +17 จุด ดัชนียืนระดับได้ดีตลอดช่วงการซื้อขาย จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีก ไอซีที และพลังงาน โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีส่วนใหญ่สาเหตุมาจาก ผลการดำเนินงานท่ีออกมาดีกว่าคาดมาก รวมถึงหุ้นที่มี outlook การเติบโตดี อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในยูเครน รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศยังเป็นปัจจัยท่ีต้องติดตาม ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,679.90 จุด +17.18 จุด +1.03% มูลค่าการซื้อขาย 87,773 ลบ. ต่างชาติ+2,477.30 ลบ. TFEX -3,652 สัญญา ตราสารหนี้ +1,807.19 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งข้ึน 834.92 จุด +2.51% ปรับตัวข้ึนเป็น % วันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 และตลาดฟื้นตัวเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันหลังจากดิ่งลงหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขานรับรายงานข่าวที่ว่ารัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเจรจากับยูเครน
+ ตัวแทนของยูเครนและรัสเซียนัดหารือวันนี้บริเวณชายแดนระหว่างยูเครนและเบลารุส ใกล้กับแม่น้ำปริปยัต ตอนเหนือของประเทศ
+MSCI ระบุว่าจะไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆกับหลักทรัพย์ของรัสเซียตามท่ีบริษัทเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ในระหว่างการทบทวนดัชนีประจำเดือนก.พ. หลังจากท่ีสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
+ วันนี้นายกฯ เป็นประธานเปิดท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ผ่านระบบออนไลน์ เดินหน้าพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกสู่ความเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ทางน้ำของอาเซียน
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 22,175 ราย มีผู้เสียชีวิต 42 ราย รักษาหาย 17,470 ราย
ปัจจัยลบ
– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 91.59 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวข้ึน 1.5% ในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นอย่างมากในวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์รัสเซียบุกโจมตียูเครน รวมถึงรายงานข่าวที่ว่ารัสเซียพร้อมที่จะเจรจากับยูเครน ซึ่งส่งผลกดดันราคาน้ำมัน
– สหรัฐและชาติพันธมิตรแห่งโลกตะวันตกเห็นพ้องกันที่จะตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT ซึ่งเป็นตัวกลางสำหรับการโอนเงินข้ามประเทศ ทำให้รัสเซียได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างหนัก
– ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ส่ังการให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์เตรียมพร้อมในระดับสูงสุด เพื่อรับมือกับนาโต
– ปธน.โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการควบคุมการส่งออกสินค้าให้กับรัสเซีย เพื่อสกัดกั้นไม่ให้รัสเซียสามารถเข้าถึงสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เชิงพาณิชย์ คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเซมิคอนดักเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องบิน
– เวิลด์แบงก์ และ IMF กำลังดำเนินการเพื่อรับประกันความปลอดภัยของพนักงานในยูเครน หลังรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนเต็มรูปแบบ และออกแถลงการณ์ว่าความขัดแย้งที่เกิดข้ึนได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในพื้นท่ีอย่างมาก
– อียู ได้ดำเนินมาตรการท่ีไม่เคยเกิดข้ึนมาก่อนด้วยการประกาศจัดส่งอาวุธให้กับยูเครนเพื่อนำไปใช้ในการต่อสู้กับรัสเซียท่ีกำลังรุกราน และปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินรัสเซียผ่าน
– ข้อมูลจาก Worldometer พบว่า ช่วงสัปดาห์ท่ีผ่านมาไทยเรามีจำนวนการติดเชื้อใหม่ยืนยัน (ไม่รวม ATK) เพิ่มข้ึน 31% และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสปรับตัวลงจากแรงกดดันจากการท่ีปธน.ปูตินได้สั่งการให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธ นิวเคลียร์เตรียมพร้อมในระดับสูงสุด ขณะท่ีนักลงทุนยังจับตาตัวแทนของยูเครนและรัสเซียนัดหารือวันนี้บริเวณ ชายแดนระหว่างยูเครนและเบลารุส มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันน้ีท่ี 1,665-1,685 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
- หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
- หุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวข้ึน : PTTEP PTT TOP PTTGC
- มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR
- FTSE Global Equity Index Series (ใช้ราคาปิด 18 มี.ค.65) : Large Cap : – , Mid Cap : – , Small Cap หุ้นเข้า : TIPH JTS SINGER หุ้นออก: UV WHART , Micro Cap หุ้นเข้า : 2S, ACC, AQ, APCO, B, BIG, CEN, CTW, CMR, CV, CGH, ECL, EE, FORTH, GJS, IT, MILL, MTI, METCO, NTV, PAP, PTL, SUC, CFRESH, SF, SKY, BFIT, SCM, TOG, TVI, TRC, UBE, UVAN, UV, VNG, WICE หุ้นออก : BYD, TIPH, MK, NEX, OISHI, QHHR, SABUY, SINGER, SYNEX, XPG
หุ้นรายงานพิเศษ
CPN (ซื้อ Bloomberg Consensus 64 บาท)
- 4Q64 มีกำไร 1,816 ล้านบาท -10%YoY +692%QoQ ฟื้นตัวแรงจาก 3Q64 จากการผ่อนคลายมาตรการ เข้มงวดควบคุมโควิด-19 และเป็นช่วงไฮซีซั่น ปี 64 มีกำไร 7,148 ล้านบาท -25%YoY โดยมีรายกายที่ไม่ เกิดขึ้นประจำ 2 รายการ ได้แก่ ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 2,436 ล้านบาท และการปรับปรุงมูลค่าสัญญาเช่าเงินทุน 1,333 ล้านบาท เหลือกำไรสุทธิจาก 3,380 ล้านบาท บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.60 บาท กาหนด XD 4 มี.ค. วันจ่าย 17 พ.ค. yield 1.1%
- เรามีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในปี 65 ท่ีคาดจะเห็นการฟื้นตัวแรงจากฐานต่ำท้ังกลุ่ม ธุรกิจเดิมซึ่งคาดหวังว่าจะเห็น Traffic Recovery ส่วนลดค่าเช่าพื่นที่ลดลง และการเปิดบริการศูนย์การค้าใหม่ที่ จ.จันทบุรี ความยืดหยุ่นในการพัฒนาโครงการที่หลากหลายประเภทและหลากทำเลในลักษณะ mixed-use และการควบรวมงบการเงินกับ SF เต็ม โดยคาดว่ารับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มปีเพิ่มจาก SF โครงการ JV-MegaBangna ไตรมาสละราว 140 ลบ. ทั้งน้ีการกู้เงินเพิ่มเพื่อใช้ลงทุนในดีล M&A ทำให้มี net D/E ratio ณ ปลายปี 64 เพิ่มขึ้นสู่ 0.91 เท่าจากระดับ 0.48 เท่า ณ ปลายปี 63 แต่ต้นทุนทางการเงินต่าลงโดยมี cost of fund ในปี 64 ค่อนข้างต่ำท่ี 1.84% เทียบกับ 2.25% ในปี 63 -4%YoY ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ยพลิกเติบโต 31% เป็น 9,354 ล้านบาท
หุ้นมีข่าว
(+) NRF (Bloomberg Consensus – บาท) เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ต่อสู้กับโลกร้อน นำเทคโนโลยี Blockchain เสริมศักยภาพทางธุรกิจ รุกลงทุน 700 ล้านบาท ซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์ 2,200 เครื่อง ระบุเซ็น MOU กับผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดในไทย รองรับธุรกิจเหมืองขุดคริปโทที่ใช้พลังงานสะอาด 100% เป็นรายแรกในไทย คาดรับรู้รายได้ทันที (ที่มา ทันหุ้น)
(+) UAC (Bloomberg Consensus 5.45 บาท) จ่อเซ็นกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติผลิตน้ำมัน 300 บาร์เรลต่อวัน 4 มีนาคมนี้ เร่งติดตั้งเครื่องจักร 3-4 เดือน รับรู้รายได้ไตรมาส 3/2565 คาดโกยรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ต้นทุนแค่ 30 ดอลลาร์ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SVT (Bloomberg Consensus 3.10 บาท) เตรียมเพิ่มแพ็กเกจแฟรนไชส์ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติจากเดิมมี 2 แพ็กเกจ 50 ตู้ และ 100 ตู้ ตอบโจทย์ลูกค้ามากข้ึน พร้อมเดินหน้าขยายตู้ต่อเนื่อง มั่นใจสิ้นปี 2565 แตะ 16,000 ตู้ และปี 2566 เพิ่มเป็น 20,000 ตู้ ด้านกำลังซื้อเดือนมกราคมเติบโต 15% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มั่นใจผลงานปีนี้โต 20-25% ส่วนปี 2564 จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น (ท่ีมา ทันหุ้น)
(+) JMT (Bloomberg Consensus 77.00 บาท) “อดิศักดิ์” ซีอีโอ “เจ มาร์ท” พร้อมพา “เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์คเซอร์วิสเซ็ส” หรือ JMT เป็นเอเอ็มซีรายใหญ่ท่ีแข็งแกร่ง เผยร่วมทุนกับ KBANK จะบันทึกรายได้ภายในกลางปีนี้ พร้อมเผยยังมีดีลเพิ่มอีก 2-3 แบงก์แน่ วางแผนเจเอ็มทีหันไปสู่การบริหารหนี้ท่ีมีหลักประกันจำพวกบ้าน ส่ิงปลูกสร้าง (ที่มา ข่าวหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 28 ก.พ. กำหนดวันสุดท้ายบจ.ส่งงบการเงินปี 64 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 28 ก.พ. สหรัฐรายงานดัชนีการผลิตเดือนก.พ. จากเฟดดัลลัส
- 1 มี.ค. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ เดือนก.พ.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ก.พ.จากไฉซิน
อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้านเดือนก.พ.จากมาร์กิต
สหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้านเดือนก.พ.จากมาร์กิต
- 2-3 มี.ค. นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินรายครึ่งปีต่อคณะกรรมการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภา
- 15-16 มี.ค. กำหนดประชุม FED