บล.ไอร่า:

CK ช. การช่าง: CK ประเมินรายได้งานก่อสร้างปี’65 ทรงตัว คาด Backlog เร่งตัวขึ้นหาก CKP ลงนามโครงการ โรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง

ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ (8/3/65) :

  • Backlog สิ้นปี’64 อยู่ที่ 45,819 ล้านบาท รวมรับงานเพิ่มทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 27,966 ล้านบาท และคาดศุกร์นี้ (11/3/65) CK ลงนามสัญญางานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฏร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทางรวม 23.6 กม.สัญญา 1&2 ซึ่ง CK JV STEC มูลค่ารวม 32,988 ล้านบาท คาด Backlog เพิ่มขึ้นอยู่ที่ ~65,000–66,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี’65 โครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญา 2&3 มูลค่ารวม ~24,386 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเตรียมพื้นที่ และโครงการสายสีม่วงข้างต้น อยู่ในช่วงการออกแบบ ทำให้คาดเริ่มรับรู้รายได้เต็มที่ตั้งแต่ปี’66 เป็นต้นไป และคาดยังไม่ได้รับผลกระทบจากราคาวัสดุก่อสร้าง/ น้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่ Backlog ที่มีอยู่เป็นโครงการที่มีค่า K สามารถขอชดเชยส่วนต่าง หากราคาวัสดุก่อสร้าง/น้ำมัน เพิ่มขึ้นมากกว่า 4%
  • คาดโครงการขนาดใหญ่เริ่มประมูล 2H/65 เป็นต้นไป เช่น (1) สีส้มตะวันตกศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์เป็นการลงทุน PPP ภายใต้เกณฑ์ใหม่ (ราคา 70 เทคนิค 30) มูลค่างานก่อสร้าง 127,012 ล้านบาท ซึ่ง BEM เข้าประมูล และ CK รับงานก่อสร้าง คาดขายซองช่วงกลางปี (2) โครงการ Expressway กะทู้–ป่าตองมูลค่าก่อสร้าง 14,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอครม.อนุมัติ (3) โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางขอนแก่น-หนองคาย และจิระ-อุบลราชธานี มูลค่า 25,000 ล้านบาท และ 36,000 ล้านบาท ตามลำดับ (4) โครงการคลองระบายน้ำบางบาล-บางไทร สัญญา 4-6 มูลค่ารวม 8,000 – 9,000 ล้านบาท และ (5) โครงการ PPP-Motorway วงแหวนตะวันตกบางขุนเทียน-บางบัวทองมูลค่าก่อสร้าง 46,000 ล้านบาท เป็นต้น รวมถึงโครงการอื่น เช่น งานอุโมงค์ระบายน้ำของ กทม. และสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาของกรมทางหลวงชนบท
  • ขณะที่ CK ยังมีโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง คาดมูลค่าก่อสร้างใกล้เคียงโครงการไซยะบุรี 70,000 – 80,000 ล้านบาท หาก CKP สามารถลงนาม EPC โครงการดังกล่าว คาดทำให้ Backlog ของ CK เพิ่มขึ้นสูงกว่า 100,000 ล้านบาท อีกครั้ง
  • ภายใต้ Backlog ที่มีอยู่ CK คาดรายได้งานก่อสร้างปี’65 ทรงตัวอยู่ที่ ~12,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มี Upside จากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง สามารถรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทได้ทันที เมื่อลงนามสัญญา โดย CK มีเป้าหมาย GPM อยู่ที่ 7-10% ขณะที่เราคาดกำไรสุทธิ (จากการดำเนินงานปกติ) 319 ล้านบาท ลดลง 65% จากปี’64 ซึ่งรวมกำไรจากการขายเงินลงทุนและที่ดินรวม 422 ล้านบาท และเงินชดเชยดอกเบี้ยจากค่างานก่อสร้างอีก 382 ล้านบาท
  • ประเมินราคาเป้าหมายปี’65 ที่ 23.80 บาท (เดิม 24.50 บาท) อิง PBV 1.5X คาดราคาหุ้นถูกกดดันตามภาพรวมกลุ่มฯ โดยเฉพาะต้นทุนวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม งานส่วนใหญ่ของ CK เป็นงานที่มีค่า K คาดช่วยลดความเสี่ยงในระดับหนึ่ง พร้อมจุดเด่นจากบริษัทที่ร่วมลงทุน ทั้งงานก่อสร้าง เงินปันผล และกำไรจากการขายเงินลงทุน ทำให้ยังแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนในระยะกลาง – ยาว โดยเฉพาะช่วงราคาปรับลดลง
- Advertisement -