บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Minor International (MINT TB) คาดปี 65 ฟื้นตัวแรง
เพิ่มน้ำหนักเป็น “ซื้อ” จากฟื้นตัวแรงในปีนี้
เราเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/64 โดยมีกำไรหลัก 1.6 พัน ลบ. (จากการฟื้นตัวในยุโรป) ขณะที่ผู้บริหารคาดว่า MINT จะพลิกมีกำไรในปี 65 เราเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้น 12% เป็น 37 บาท เนื่องจากเราคาดการณ์กำไร 1.5 พัน ลบ. ในปี 65 เทียบกับขาดทุน 1.2 พันลบ. ในสมมติฐานก่อนหน้านี้ ซึ่งได้แรงหนุนจากการเติบโตที่ดีในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร เพื่อให้สอดคล้องกับผู้บริหาร เราคาดว่า RevPar จะเติบโต 64% ในปีนี้ และยอดขายสาขาเดิมจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 10% YoY ในปีนี้ (เทียบกับสมมติฐานก่อน หน้านี้ที่ 2%)
แม้ว่าการฟื้นตัวในยุโรปอาจแข็งแกร่งหลังโควิด-19 แต่มีความเสี่ยงสูงจากความขัดแย้งในยูเครนที่อาจกดดันการฟื้นตัวของโรงแรมของ MINT เนื่องจากประมาณ 60% ของรายได้ปกติของโรงแรมอยู่ในยุโรป
ธุรกิจโรงแรมในยุโรปฟื้นตัวโดดเด่น แม้จะมีความเสี่ยง
เราคาดว่าอัตราการเข้าพักจะเพิ่มขึ้นเป็น 54% ในปี 65 จาก 36% ในปี 64 ทั้งนี้ จากความต้องการที่ตึงตัวมากขึ้นหลังโควิด เราคาดว่าราคาห้องพักเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 2% ในปีนี้ ส่งผลให้ RevPar เพิ่มขึ้น 66% YoY พร้อมประเมินว่า RevPar จะเพิ่มขึ้นอีก 36% ในปี 66 และ 9% ในปี 67 เนื่องจากธุรกิจโรงแรมเข้าสู่ภาวะปกติหลังโควิดคลี่คลาย
ยอดขายสาขาเดิมเป็นบวก หลังไม่มีล็อกดาวน์แล้ว
เราคาดว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะอยู่ที่ 10% ในปี 65 เพิ่มขึ้นจาก -5.4% ในปี 64 โดยมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวทั้งในประเทศไทย จีน และออสเตรเลีย ซึ่งจะทำให้ยอดขายในธุรกิจร้านอาหารสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ถึง 3% ที่ประมาณ 2.34 หมื่น ลบ. จากธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารที่ฟื้นตัว เราเชื่อว่า MINT จะทำกำไรได้ 1.6 พัน ลบ. ในปีนี้ เทียบกับขาดทุนหลักที่ 9.6 พัน ลบ. ในปี 64 ทั้งนี้ หลังพลิกมีกำไรจะทำให้อัตราส่วน D/E สุทธิลดลงเป็น 1.27 เท่า ณ สิ้นปี 65 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ 1.75 เท่า
ความเสี่ยงที่สำคัญ คือ โควิดและต้นทุนอาหารที่สูงขึ้น
เราใช้วิธี DCF, WACC 8%, การเติบโต 3% ประเมินราคาเป้าหมาย โดยความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ 1) ความขัดแย้งในยูเครนที่อาจกระทบการฟื้นตัวของโรงแรมในยุโรป และ 2) ต้นทุนวัตถุดิบอาหารที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของธุรกิจร้านอาหาร เราคาดว่าทุกๆ 1% ของต้นทุนวัตถุดิบอาหารที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้กำไรลดลง 1.8%