คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวรับ 1,630 / 1,618 จุด แนวต้าน 1,655 / 1,670 จุด แนะนำเก็งกำไร BDMS BH HMPRO ทางเทคนิค ดัชนีฯ ยังไม่สามารถปิดเหนือแนวต้านที่ 1,655 จุด ประกอบกับมีแรงเทขายในช่วงบ่ายวานนี้ ทำให้วันนี้ดัชนีฯ มีโอกาสอ่อนตัว โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,618 จุด หากหลุดแนวรับดังกล่าวจะเป็นสัญญาณขาย  ไฮไลท์ประจำวันอยู่ที่สถานการณ์การสู้รบระหว่างยูเครน-รัสเซีย, รายงานเงินเฟ้อของเยอรมนี และตัวเลข GDP ของ UK

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

  • +KTZ Portfolio: Mid-Small Cap แนะนำ BGC M TWPC (แนะขาย XO) / Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC BEC TCAP CENTEL BH ADVANC AOT DTAC COM7 MINT KTB PLANB (แนะขาย BLA)
  • +กลุ่มอิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย: ธนาคาร KBANK SCB BBL พาณิชย์ CPALL CPN CRC OSP ท่องเที่ยว AOT CENTEL ERW BA
  • +/-กลุ่มรับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย: -กลุ่มอิงท่องเที่ยว โรงไฟฟ้า ขนส่งฯ เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ AOT MINT CENTEL ERW DELTA KCE HANA AH SAT BGRIM +กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงาน PTTEP PTT TOP ESSO IRPC BCP (Stock Gain) BANPU CPI KSL TWPC SOLAR
  • -XD Effect: วันนี้ BGRIM BH HANA TVO EA
  • +กลุ่มขายอุปกรณ์ Apple: COM7 SPVI CPW ADVANC TRUE DTAC JMART

ปัจจัยบวก

  • Thailand: รมว.คมนาคม ได้เร่งรัดการลงนามในสัญญาของหน่วยงานในสังกัด เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณปี 2022 ได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ และมีนโยบายให้นำผลการเบิกจ่ายงบประมาณมาเป็นตัวชี้วัดในการประเมินผลการปฏิบัติงานด้วย (+กลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง)

ปัจจัยลบ

  • Russia-Ukrane: การเจรจาระหว่างรมว.กระทรวงต่างประเทศรัสเซียและยูเครนยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ ทำให้ความไม่แน่นอนของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังคงอยู่ ส่งผลให้ตลาดการเงินกลับมาผันผวนอีกครั้งในค่ำคืนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะส่งผ่านโมเมนตัมเชิงลบมายังตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้
  • Inflation: ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 7.9% สูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้ตลาดกังวลว่าเฟดอาจจะมีการออกมาตรการเงินที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น และอาจจะทำให้ตลาดเผชิญแรงเทขาย เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนต้องการรอความชัดเจนจากการประชุม FOMC สัปดาห์หน้า

ประเด็นสําคัญ

  • XD Effect วันนี้ มีผลต่อดัชนีฯ -0.52 จุด นำโดย BGRIM BH HANA TVO EA
  • Opportunity Day วันนี้ IVL HL HANA PTG TQM JP JKN SUPER TVO LALIN PDJ BCH HMPRO
  • Germany ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. โดย Consensus คาดเพิ่มขึ้นจาก 4.9% เป็น 5.1%
  • UK รายงานตัวเลข GDP MoM เดือน ม.ค. โดย Consensus คาดขยายตัว 0.2% MoM

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

  • + ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่สาม: ดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบ 1,643,80-1,659.28 จุด ก่อนมีแรงขายทํากําไรออกมาในช่วงบ่ายกดดัชนีฯ ปิดตลาดที่ 1,647.08 จุด +3.44 จุด วอลุ่มชื้อขาย 1 แสนล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +1.37% กลุ่มการแพทย์ +1.34% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง +1.16% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค +0.65% หุ้นบวก >4% TRC JUTHA INGRS TWZ SCI AQUA TK SAMART KAMART ESSO SPRC AJA หุ้นลบ >4% PAP ASW JTS ASP PSH SGP RSP TGPRO UVAN NUSA ALLA MONO
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ: DJIA -0.34% S&P500 -0.43% NASDAQ -0.95% โดยมีปัจจัยลบจากรายตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ที่ออกมาสูงกว่าคาด และสูงสุดรอบ 40 ปี และความไม่แน่นอนกรณีรัสเซีย-ยูเครน หลังจากการเจรจาหยุดยิงยังไม่ได้ข้อยุติ ส่วนหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ CAC40 -2.83% DAX -2.93% FTSE -1.27% จากความล้มเหลวในการเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และ ECB ส่งสัญญาณสิ้นสุดการทำ QE ใน 3Q22 เพื่อเปิดทางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • +/- น้ำมันดิบปิดลบ แต่ทองคำปิดบวก: WTI-USD2.68/บาร์เรล ปิดที่ USD106.02/บาร์เรล Brent –USD1.81/บาร์เรล ปิดที่ USD109.33/บาร์เรล หลังจากรัสเซียให้คำมั่นว่าจะยังคงจัดส่งน้ำมันตามที่ตกลงไว้กับบรรดาผู้ซื้อ ส่วนทองคำกลับมาปิดบวก +USD12.20 ปิดที่ USD2,000.40/ออนซ์ จากความไม่แน่นอน ของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ผลักดันให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสําคัญ

  • Thailand: โกลด์แมน แซคส์ ประกาศยุติการดำเนินธุรกิจในรัสเซีย โดยนับเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่แห่งแรกของโลกที่ประกาศดังกล่าว หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนที่แล้ว
  • USA: สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 7.9% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 1982 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.8% ขณะเดียวกันดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานพุ่งขึ้น 6.4% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • EU: ผลประชุม ECB มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% อัตราดอกเบี้ย Deposit Facility Rate ที่ -0.5% และ Marginal Lending Rate ที่ 0.25% และส่งสัญญาณสิ้นสุดการทำ Asset Purchase Program ใน 3Q22 ก่อนที่จะค่อยๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดแรงกดดันเงินเฟ้อที่พุ่งแรงจากวิกฤติสงครามยูเครน

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนํารายสัปดาห์: PTT COM7 M

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: BDMS BH HMPRO

Derivatives: แนะรอ Long เมื่ออ่อนตัวทำกำไรจบในวัน (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)

หมายเหตุ: Krungthai Zmico มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) (KTB) และบมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) ลูกค้าโปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจก่อนการลงทุนในหลักทรัพย์ KTB และ XPG มีกรรมการของบริษัทเป็นกรรมการใน VNG, SVH, PACE, MAJOR, KBS, XPG, NVD, KTC, IVL, SAWAD, CI มีผู้บริหารของบริษัทเป็นกรรมการใน NFC เป็นที่ปรึกษาทางการเงินใน  XPG, TSE, STOWER, NVD, THCOM

- Advertisement -