Daily Strategy
Domestic ยังดูผลกระทบน้อยท่ีสุด แนะนํา ICHI ADVANC
วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้น Dow Jones ปรับฐานลงราวๆ 0.7% ตลาดยังคงกังวลกับสถานการณ์ความขัดแย้งใน ยูเครนและรัสเซีย แม้ในช่วงเปิดตลาดจะฟื้นตัวได้บ้าง หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียกล่าวว่าตนเห็น ความคืบหน้าในการเจรจากับยูเครน ซึ่งเจ้าหน้าที่รัสเซียได้แจ้งตนมาว่า การเจรจาเริ่มมีสัญญาณบวกและการเจรจามีขึ้นทุกวัน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้น EU หลายประเทศปิดบวกได้ และพบว่าสัญญาณของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร สหรัฐอายุ 2, 10 ชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อย Vix Index ก็เช่นกัน ทองคำยังคงปรับฐาน และน้ำมันดิบ BRT ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 3.1% สัญญาณดังกล่าวบ่งชี้ว่าในภาพรวมนักลงทุนยังดูไม่ได้วิตกมากนักกับสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย หากนักลงทุนวิตกกับสถานการณ์จริงเชื่อว่าจะต้องเห็นทองคำปรับ แล ะVix Index ปรับขึ้นเด่นเช่นกัน
ปัจจัยสัปดาห์นี้
( 1 ) ประชุม FED ในวันที่ 15-16 มี.ค. เป็นประเด็นที่นักลงทุนจะให้ความสำคัญ เนื่องจากจะมีการเปิดเผยตัวเลข ต่างๆ อาทิ GDP , เงินเฟ้อ , ดอกเบี้ย ในระยะถัดไป อิงข้อมูลจาก CME FED WATCH คาดว่าในการประชุมครั้งนี้จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% (95%) และอีก 5% มองว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม โดยความเห็นทั้งปี 2022 คาดดอกเบี้ยปลายปีจะอยู่ที่ 1.75–2.00% ทั้งนี้เมื่อเกิดความไม่สงบยูเครน-รัสเซีย ก็มีโอกาสที่ FED จะผ่อนคลาย และหากผ่อนคลายมากกว่าที่ตลาดประเมินไว้ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น หากผ่อนคลายกว่าที่ตลาดประเมินไว้ มองกลุ่ม Growth Stock มีโอกาสกลับมาถูกเก็งกำไรได้ อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ (KCE) อย่างไรก็ตาม หากดูทิศทาง ดอกเบี้ย FED ยังเป็นลักษณะค่อยๆ ปรับขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น Value Play ยังเป็น Theme หลักในระยะกลาง
(2) ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐในวันอังคาร Bloomberg คาดที่ 1%MoM เชื่อว่าตลาดอยากเห็นตัวเลขที่ไม่ร้อนแรงจนเกินไปนัก
(3) ยอดค้าปลีกสหรัฐในวันพุธ Bloomberg คาดที่ 0.4%MoM ประเมินคล้ายกัน คือ ตลาดคงไม่ต้องการตัวเลขที่ร้อนแรงจนเกินไป ดังนั้นสัปดาห์นี้กะจัยในภาพรวม ยังดูเป็นกลางมากกว่า คาด SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1650–1680 โดยมองยูเครน-รัสเซียเป็นปัจจัยพิเศษที่ต้องจับตาหากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น อาทิ ความรุนแรงที่มากขึ้น ก็อาจส่งผลให้ตลาดปรับฐานได้
กลยุทธ์การลงทุน
Domestic จะดูมีความน่าสนใจกว่า เมื่อพิจารณาทั้งผลกระทบจากยูเครนและรัสเซียที่จำกัด ประกอบกับเป็น Value Play ที่สถิติช่วง FED ขึ้นดอกเบี้ย เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดี อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ร้านอาหาร (M MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) แต่หากลงทุนระยะกลางแนะสะสมหุ้นที่มีน้ำมันเป็นต้นทุน อาทิ (SCC SCGP TOA) มองว่าราคาปรับลงมาสะท้อนไปบางส่วนแล้ว
ICHI (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 13 บาท) คาดผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ ใน 1Q22 และต่อเนื่องใน 2Q22 จากช่วงไฮซีซั่น ปัจจุบัน ICHI ซื้อขายเพียง 20xPE’22E ซึ่งถูกกว่าค่าเฉลี่ยซื้อขายในรอบ 5 ปี และต่ำกว่ากลุ่มเครื่องดื่ม
ADVANC (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 269 บาท) คาดรายได้กลุ่มลูกค้าองกรณ์จะมีสัดส่วน 20% ของรายได้รวมภายในปี 2025 ขณะที่ผู้บริหารเชื่อว่า กลุ่มนี้จ้ะมีส่วนแบ่ง 20% ของรายได้รวมภายในปี 2024 ต่างกันเล็กน้อย เพราะคาดว่าการแข่งขันจะสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า