บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Krung Thai Bank (KTB TB) สร้างรายได้จาก G-wallet ไม่ง่าย
ถือ TP 13 บาท ชอบ KBANK มากกว่า
เราคาดว่ารายได้ของ KTB จะยังคงอ่อนแอ เนื่องจากได้หันไปเน้นที่สินเชื่อภาครัฐ (ผลตอบแทนและค่าธรรมเนียมต่ำ) เพื่อเพิ่มคุณภาพสินทรัพย์ คงแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 13 บาท (P/BV ปี 65 ที่ 0.5 เท่า, ROE 74%) หุ้น KTB จะยังคงซื้อขายแบบมีส่วนลดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เนื่องจากการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอและความเสี่ยงจากการให้บริการแก่ภาครัฐ เรามองว่าการสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมจากแอปกระเป๋าตังของภาครัฐยังคงเป็นเรื่องยาก เราชอบ KBANK มากกว่า (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 185 บาท) เนื่องจากน่าจะได้ประโยชน์มากกว่าจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ตั้งเป้าสินเชื่อ และ non-nii เติบโต 3-4%
ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่าน ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อปี 65 เติบโต 3-4% (หนุนโดยสินเชื่อภาครัฐและสินเชื่อรายย่อย) ส่วนรายได้ Non-NII เติบโตตัวเลขหลักเดียว โดย KTB มีแผนที่จะเพิ่มค่าธรรมเนียมจากการบริหารความมั่งคั่ง เพื่อชดเชยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและ ATM ที่ลดลง ธนาคารคาดว่า NIM จะทรงตัว YoY ที่ประมาณ 2.5% ในปีนี้ ทั้งนี้ NIM ของ KTB ลดลงอย่างมากจาก 3.2% ในปี 62 เป็น 2.5% ในปี 64 เนื่องจากสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐต่อสินเชื่อทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 21% ในปี 64 จาก 9% ในปี 62 ซึ่ง CFO ระบุว่าสินเชื่อภาครัฐที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสถาพคล่องที่เพียงพอ
คาดต้นทุนสินเชื่อและ NPL คงที่
ผู้บริหารไม่กังวลนักเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ เนื่องจาก 21% ของสินเชื่อทั้งหมดเป็นสินเชื่อภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำ และ 50% ของสินเชื่อรายย่อยเป็นข้าราชการ ซึ่งธนาคารสามารถหักเงินจากเงินเดือนได้โดยตรง ธนาคารตั้งเป้า NPL Ratio ที่ 3.5% และต้นทุนสินเชื่อที่ 1.35% ในปีนี้ ส่วน NPL Coverage น่าจะลดลงเล็กน้อย YoY เนื่องจากการตัดหนี้สูญที่เร็วขึ้นเพื่อควบคุม NPLs ขณะที่สินเชื่อในโครงการบรรเทาหนี้ลดลงเหลือ 9.8 หมื่นลบ. ในไตรมาส 4/64 จาก 1.17 แสนลบ.ในไตรมาส 3/64 และคิดเป็น 4% ของสินเชื่อทั้งหมด จากทั้งหมด 88% เป็นสินเชื่อธุรกิจ (องค์กรและ SME) และ 12% เป็นสินเชื่อรายย่อย
สร้างรายได้จากแอป G-wallet ไม่ง่าย
เราคงประมาณการกำไรปี 65-66 ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากเป้าหมายทางการเงินสอดคล้องกับสมมติฐานของเรา ในแง่บวก เราเชื่อว่าค่าใช้จ่ายด้านเครดิตได้พุ่งแตะจุดสูงสุดแล้ว และคาดว่าจะมีโอกาสในการลดต้นทุนด้านเครดิต ส่วนในแง่ลบ เรามีมุมมองที่ตรงข้ามกับตลาด และมองเห็นความเสี่ยงมากกว่าโอกาสจากฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในผู้ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลของรัฐบาล (แอป Pao Tang) เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ดังนั้นการทำธุรกรรมผ่านสาขาส่วนใหญ่จึงอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าใช้แอพมือถือ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์การบริหารความมั่งคั่ง