JDF จัดโรดโชว์ออนไลน์ แสดงวิสัยทัศน์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรสและอาหารแปรรูป ที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ นำเสนอข้อมูลสรุปข้อมูลบริษัทและการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน โดยมี “แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ร่วมนำเสนอข้อมูล ชูศักยภาพการเติบโตของ JDF ที่อยู่ในเทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารโลกและแผนการลงทุนในอนาคต เตรียมขาย IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น เข้าระดมทุนใน SET คาดลงกระดานเทรดได้ในช่วงไตรมาส 2/65

 

นางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ JDF เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเสนอข้อมูลธุรกิจในงานโรดโชว์ออนไลน์  เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบเกี่ยวกับรายละเอียดการดำเนินธุรกิจ จุดแข็ง และโอกาสการเติบโตของบริษัทในอนาคต ก่อนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร อาหารและเครื่องดื่ม ภายในไตรมาส 2 นี้

สำหรับ JDF เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรสและอาหารแปรรูป ซึ่งผลิตและจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัท ผงเขย่าปรุงรสและไส้เบเกอรี่ ตรา “โอเค” ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงปรุงรสและอาหารไทยกึ่งสำเร็จรูป ตรา “กินดี” หรือ “Kindee”  มะพร้าวอบกรอบ ตรา “Crispconut” และซุปกึ่งสำเร็จรูปไม่ใส่ผงชูรสทุกชนิด ตรา “GOOD EATS” ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารกว่า 30 ปี โดยการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงรสและอาหารแปรรูประดับประเทศ

ทั้งนี้ JDF อยู่ระหว่างเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

ด้านวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ขยายช่องทางตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV ประเทศจีนตอนใต้และอินเดีย ลงทุนในการวิจัยพัฒนาและเครื่องจักรของกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตราการเติบโตสูง รวมไปถึงลงทุนในระบบเทคโนโลยีสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพและขยายกำลังการผลิต และเชื่อมโยงข้อมูล เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตและยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งใช้ชำระคืนเงินกู้ให้กับสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

“การเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ แม้สถานการณ์โควิดกระทบภาพรวมคำสั่งซื้อและการส่งออกของลูกค้าบริษัท แต่เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น เนื่องจากอุตสาหกรรมอาหารอยู่ในเทรนด์การเติบโตของโลก ประกอบกับฐานลูกค้าของ JDF เป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอาหาร ทำให้ความต้องการเครื่องปรุงรสและอาหารแปรรูปยังคงอยู่ในระดับสูง และมองว่า JDF จะเป็นหุ้นคุณภาพสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาบริษัทซึ่งมีปัจจัยส่งเสริมการเติบโต” นางสาวรัตนา กล่าว

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ JDF กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพการเติบโต ทั้งประสบการณ์และเชี่ยวชาญของผู้ก่อตั้งบริษัทและผู้บริหารที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารมากกว่า 30 ปี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยของลูกค้าในธุรกิจอาหาร ร้านอาหารยักษ์ใหญ่ รวมไปถึง SMEs ด้วยกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาหรือปรับเปลี่ยนสูตรอาหารให้ตรงความต้องการและมีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งได้พัฒนามาแล้วกว่า 300 ราย หรือกว่า 2,000 รายการ

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา JDF มีการสร้างโรงงานแห่งใหม่และได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพในระดับสากล สามารถรองรับโอกาสการเติบโตในยุคหลังโควิด-19 และก้าวสู่การเป็นผู้นำการพัฒนาและผลิตเครื่องปรุงรสและอาหารแปรรูปให้ลูกค้าชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ รวมถึง การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สามารถเพิ่มโอกาสการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาบริษัทที่มีปัจจัยส่งเสริมการเติบโตอย่างมั่นคง ตอกย้ำ JDF เป็นบริษัทที่สามารถเติบโตได้อย่างน่าจับตามอง

********

- Advertisement -