บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +72.5%

Close Mar 14, 2022 Price (THB) 3.28

12M Target(THB) 5.75

Previous Target (THB) 5.75

What’s new?

  • Occ. Rate ในเดือนม.ค.-ก.พ.65 ยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะใน Maldvies ขณะที่ ADR ยังเป็นขาขึ้นในเกือบทุกตลาด
  • นักท่องเที่ยวรัสเซียคิดเป็น 10% ของรายได้ในปี 2564 แต่ส่วนใหญ่อยู่ในตลาด Maldives ซึ่งเป็นตลาดที่แข็งแกร่งพร้อมถูกทดแทนด้วยนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ขณะที่ใน UK 95% เป็น Domestic ไม่ได้รับผลกระทบ

Our view

  • เราคงประมาณการที่สูงกว่า Consensus จากมุมมองที่ดีกว่าในนํ้าหนักการฟื้นตัวของโรงแรมตามหมู่เกาะในช่วงแรกของการฟื้นตัวยุค Post COVID-19
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 5.75 บาท ต่อหุ้น SHR ซื้อ ขาย บน P/BV ปี 2565 เพียง 0.7X ถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 2.5x ทั้งๆ ที่ SHR มี แนวโน้มกำไรฟื้นตัวเร็วและแรงกว่ากลุ่ม

S Hotels and Resorts โอกาสทอง หากสงครามไม่ลามไปยุโรป

Business Update … แข็งแกร่งท่ามการ Omicron

ณ สิ้นปี 2564 SHR เปิดให้บริหารโรงแรมแล้วราว 98% ของโรงแรมทั้งหมด โรงแรมที่ยังปิดอยู่ คือ โรงแรม Outrigger Konotta Maldives และ Mercure Bewdley สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

  • โรงแรมกลุ่ม Crossroads ใน Maldives คาด RevPar มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ในเดือน ม.ค.-ก.พ.65 ยังได้แรงหนุนจากช่วง High Season มี Occ. Rate ที่ระดับ 72-77% (สูงกว่า 4Q64 ที่ทำได้ 63%) และได้ปรับเพิ่ม ADR อย่างมีนัยสำคัญ ที่ระดับ 30% YoY
  • โรงแรมใน UK เดือนม.ค.65 การเป็นช่วง Low Season และการระบาดของ Omicron ในช่วงต้นปี กดดัน Occ. Rate ให้ปรับตัวมาอยู่ที่ 40% เทียบกับ 4Q64 ที่ทำได้ 57% แต่เริ่มเห็นสัญญานฟื้นตัวได้ในเดือนก.พ. Occ. Rate ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 50% สะท้อนว่าผลกระทบของ Omicron ใน UK ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
  • โรงแรมในไทย แม้ช่วงต้นปีการเปิดประเทศจะทำได้ไม่เต็มศักยภาพ มีการระงับใช้มาตรการ Test&Go ชั่วคราว  และมีผลกระทบจากการระบาดของ Omicron แต่ตัวเลข Occ. Rate ในเดือน ม.ค.-ก.พ.65 อยู่ที่ระดับ 35-38% ดีขึ้น QoQ เทียบกับ 30% ใน 4Q64 สะท้อนว่าแม้เกิดการระบาดระลอกใหม่ ตลาดในไทยก็พร้อมฟื้นตัวแล้ว แต่จะเป็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ต้องรอการเปิดประเทศเต็มตัว
  • โรงแรม Outrigger ใน Mauritius ผลจากการระบาดหนักของ Omicron ทำให้ถูกจัดเป็นประเทศเสี่ยงสูง  งดการเดินทางไปสำหรับนักท่องเที่ยวหลักอย่างชาวยุโรป กดดันตัวเลข Occ. Rate ในเดือนม.ค. – ก.พ.65 ให้ปรับตัวลงมาอยู่ราว 25% เทียบกับ 54% ใน 4Q64 แต่จากสถานการณ์การระบาดเริ่มคลี่คลาย ทำให้บริษัทฯ คาดตลาด Mauritius จะกลับมาสดใสอีกครั้งตั้งแต่ 2Q65
  • โรงแรมบนเกาะ Fiji ในเดือนม.ค. 65 เกิดภาพฟื้นตัวแบบ V-Shape มี Occ. Rate สูงถึง 55% และ ADR อยู่ในระดับใกล้เคียงช่วง Pre COVID-19 จาก Pent-up demand ของนักท่องเที่ยวออสเตรเลีย แต่โดยปกติแล้วช่วงไตรมาส 1 จะเป็น Low Season SHR คาดเห็นตัวเลข Occ. Rate เกิน 60% ตั้งแต่ 2Q65

ผลกระทบจากกรณีรัสเซีย-ยูเครน จำกัด หากสงครามไม่กลายเป็นสงครามยุโรป

ในปี 2564 SHR มีรายได้จากนักท่องเที่ยวรัสเซียคิดเป็นราว 10% ต่อ Portfolio ทั้งหมด ส่วนใหญ่มาจาก โรงแรมในภูเก็ต และ Maldives ซึ่งทั้งสองตลาดมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวรัสเซียคิดเป็น 20% ในปี 2564 ในขณะที่ตลาดอื่นไม่ได้มีนักท่องเที่ยวรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะตลาด UK ซึ่งเป็น Domestic ถึง 95% แม้ว่าสัดส่วนนักท่องเที่ยวรัสเซียของ SHR จะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรายอื่นในกลุ่มที่มีสัดส่วนราวๆ 4% แต่บริษัทฯ คาดปี 2565 สัดส่วนนักท่องเที่ยวรัสเซียต่อทั้ง Port จะน้อยลงกว่าเดิม และบริษัทฯ พยายามแทนที่ด้วยนักท่องเที่ยวยุโรป อินเดีย และอิสราเอล ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

Guidance ปี 2565 ฟื้นตัวเด่น โดยเฉพาะใน 2H65

บริษัทฯ ให้ Guidance ภาพปี 2565 ดังนี้ ตลาด UK การเข้าสู่ช่วง High Season ในช่วง 2Q-3Q65 จะหนุนให้ Occ. Rate เติบโต QoQ ตลาด Maldives จากการที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวรัสเซียสูงอาจส่งผลกระทบบ้างในระยะสั้น แต่บริษัทฯ ยังคงให้ Guidance ว่าจะยังรักษาระดับ Occ. Rate ทั้งปีไว้ได้ที่ 70% และยังคง ADR ไว้ที่ระดับสูง นอกจากนี้ตลาด Maldives ที่ผ่านมาไม่มีนักท่องเที่ยวจากฝั่ง Asia อย่างมีนัยสำคัญ การเปิดประเทศมากขึ้นใน 2H65 ของประเทศฝั่ง Asia จะช่วยชดเชยตลาดรัสเซียได้

ขณะที่ตลาดในไทยมีภาพการฟื้นตัวท้าทายกว่าตลาดอื่น แต่บริษัทฯ คาดว่า ADR ของโรงแรมในไทยจะสามารถปรับตัวขึ้นไปถึงระดับ Pre COVID-19 ได้ และคาดเห็น Occ. Rate ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภายหลังการ Ramp-up ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 2H65

อัตราการฉีดวัคซีนสูง … ตลาด Thailand รอเวลาผ่าน Peak การติดเชื้ออีกนิด

สมมติฐานสำคัญของเราเรื่องจำนวนการฉีดวัคซีน เชื่อว่าหากปริมาณการฉีดเข็มกระตุ้นเข้าใกล้ระดับ 70% ตลาดนั้นจะเข้าสู่การฟื้นตัวได้ อิงตัวเลขผู้ติดเชื้อใน UK ที่ผ่านจุดพีคของระลอกใหม่ไปแล้ว ตามปริมาณการฉีดเข็มกระตุ้นที่เข้าใกล้ 70% ส่วนใน Maldives ด้วยภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะ ทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ง่าย ถ้าภาพการระบาด COVID-19 ของไทยเป็นไปตามที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรป เราคาดจะเริ่มเห็นจุดสูงสุดได้ใน 2Q65 และค่อยๆ เข้าสู่แนวโน้มขาลงตามตัวเลขการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และถ้าไม่มีสายพันธุ์ใหม่เข้ากดดันอีก  เราคาดช่วง 2H65 เป็นต้นไป SHR จะเห็นภาพการฟื้นตัวที่สดใส จากการฟื้นตัวในตลาดหลักทั้ง 3 แห่ง

คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมสิ้นปี 2565 ที่ 5.75 บาทต่อหุ้น

เราคงประมาณการปี 2565/66 ที่กำไรปกติ 319 ล้านบาท และ 700 ล้านบาท แม้ว่าประมาณการของเราจะสูงกว่า Consensus ราว 470% และ 62% ตามลำดับ แต่เราอิงจากมุมมองที่ดีกว่าในตลาด Maldives UK และการให้นํ้าหนักที่มากกว่ากับการฟื้นตัวของโรงแรมตามหมู่เกาะในช่วงแรกของการฟื้นตัวยุค Post COVID-19

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 5.75 บาทต่อหุ้น

อิง EV/EBITDA band เทียบเท่ากับกลุ่มที่ 12.1x ณ ระดับราคาปัจจุบัน SHR ซื้อ ขาย บน P/BV ปี 2565 ที่ 0.7x เทียบกับค่าเฉลี่ยโรงแรมขนาดใหญ่ในกลุ่มที่ 2.5x ทั้งๆ ที่ SHR มีแนวโน้มกำไรฟื้นตัวเร็วและแรงกว่ากลุ่ม

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) การระบาดของ COVD-19 เกิดการกลายพันธุ์ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอีกครั้ง 2) จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยกว่าคาด และ 3) ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนรุนแรงและลากยาวกว่าที่คาด

- Advertisement -