PPS เผยทิศทางธุรกิจไตรมาสแรกมีการดำเนินงาน พร้อมรับรู้รายได้ต่อเนื่อง เดินหน้าตามแผนพัฒนาคุณภาพการให้บริการ เพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างครบวงจร พร้อมพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี บุคลากรรับงานในโครงการใหม่ ขยายฐานลูกค้า เพิ่มความสามารถการแข่งขัน ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจเดิมเติบโต 10% ด้านโครงการแหลมยามู จ.ภูเก็ต หวังขายอสังหาฯ ดันกำไรพุ่ง ขณะที่งบปี 64 พลิกมีกำไรโต 176% จากปีก่อนที่ขาดทุน
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS เปิดเผยว่า แม้ที่ผ่านมาประเทศไทยจะเผชิญกับกับถานการณ์โรคระบาดโควิด -19 แต่บริษัทยังสามารถดำเนินงานให้แก่ลูกค้าทั้งกลุ่มเดิมและลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จากกลุ่มท่าอากาศยานไทย โครงการในกลุ่มเชิงพาณิชย์ (Commercial Project) ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่เป็นมิกซ์ยูสโปรเจกต์ขนาดใหญ่ โครงการพัฒนาพื้นที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม (Custom House ) รวมถึงโครงการจากกลุ่มค้าปลีกหรือคอมมูนิตี้มอลล์ (Community mall)
นอกจากนี้ ยังได้รับงานใหม่ ได้แก่ โครงการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารประวัติศาสตร์ของประเทศ โครงการ P Pattaya Community mall บนพื้นที่พัทยา และโครงการจากไทวัสดุซึ่งถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ของบริษัทด้วย ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 502.03 ล้านบาท และยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาโครงการ มูลค่ารวมกว่า 69.35 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2565 ยังมองว่ามีโอกาสฟื้นตัวตามการลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่คาดว่าจะทยอยลงทุนตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความต้องการใช้จ่ายในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ยังมีปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง อาทิ การระบาดของไวรัสโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกจากแรงกดดันเงินเฟ้อ และผลกระทบของสงคราม
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจในการพัฒนาเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างครบวงจร พร้อมกับการพัฒนานวัตกรรมที่มีส่วนช่วยในงานก่อสร้างและการขาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันสูงสุด
“บริษัทมุ่งเน้นดำเนินงานตามแผนธุรกิจต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ประกอบด้วยกลยุทธ์ด้านวัตกรรม การพัฒนาบริการในลักษณะการเหมาจ้างแบบเบ็ดเสร็จ (Turn key Design Build) เพื่อพัฒนาสินทรัพย์จากอาคารเดิม การพัฒนา Virtual Tour ในการจำลองภาพเสมือนจริงบนพื้นที่จริง เพื่อเป็นประโยชน์ในการขายและการตลาดสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงพัฒนานวัตกรรมที่ใช้ในงานบริหารควบคุมการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กร นอกจากนี้ ยังมีแผน PPS Acadamy เพื่อขยายการสอนการอบรมสู่วงกว้าง และสร้าง Platform ในการสื่อสาร เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และปรับให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากแผนการดำเนินงานในปีนี้ รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% และจะเห็นความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น” ดร.พงศ์ธร กล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทลักซ์ชัวรี่วิลล่า ในที่ดินแหลมยามู จ.ภูเก็ต ปัจจุบันได้ทำการก่อสร้างถนน รวมถึงแหล่งจ่ายไฟเรียบร้อยแล้ว ที่ผ่านมาจากมาตรการภาครัฐและการเร่งดำเนินการฉีดวัคซีน ทำให้ลูกค้าสนใจเข้ามาเยี่ยมชมโครงการมากขึ้น และถือว่าทำเลดังกล่าวเป็นพื้นที่สวยงามผืนสุดท้ายบนปลายแหลม ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นไข่มุกของจังหวัดภูเก็ต โดยโครงการมีมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งหากมีการขายอสังหาฯ ได้เพิ่มเติม จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรเติบโตมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับผลประกอบการปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 20.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 26.13 ล้านบาท จำนวน 47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 176% และมีรายได้รวม 396.56 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 409.65 ล้านบาท จำนวน 13.09 ล้านบาท หรือลดลง 3.20% ทั้งนี้ ผลการขาดทุนของบริษัทสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ เนื่องจากตลอดปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับกลยุทธ์รับงานโครงการระยะสั้น และสามารถส่งมอบงานได้รวดเร็ว รวมถึงบริหารค่าใช้จ่ายและควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
******