บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Food Sector: เป็นปีที่ท้าทาย

Event

แนวโน้มปี 2565 และผลประกอบการปี 2564

Impact

แนวโน้มผลประกอบการมี downside มากขึ้น

เราเชื่อว่าปี 2565 จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับหุ้นกลุ่มอาหาร เนื่องจากมีความเสี่ยงหลายประการ ซึ่งรวมถึงเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น และกรณีพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นผู้ส่งออกหลักของธัญพืช อย่างเช่น ข้าวสาลี และข้าวโพด ราคาธัญพืชจึงขยับเพิ่มขึ้นอย่างมากมาตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อหุ้นบางตัวในกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะผู้ผลิตเนื้อสัตว์ และ R&B Food Supply (RBF.BK/RBF TB)* เนื่องจากต้องนำเข้าธัญพืชเพื่อมาใช้ในการผลิตสินค้า ในขณะเดียวกัน การที่ COVID-19 กลับมาระบาดอีกครั้งในจีนและฮ่องกงจะทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นกับบริษัทในที่มีธุรกิจในสองประเทศนี้ (After You (AU.BK/AU TB) และ Charoen Pokphand Foods (CPF.BK/CPF TB)*)

ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกำไรสุทธิของหุ้นกลุ่มเกษตร

จากการวิเคราะห์ sensitivity ของเรา พบว่าต้นทุนที่สูงขึ้นต่อเนื่องหนึ่งไตรมาสจะกระทบกับผลประกอบการของหุ้นกลุ่มเกษตรมากกว่ากลุ่มย่อยอื่นๆ ถ้าหากราคาถ่านหิน และกากถั่วเหลืองยังสูงเท่าระดับปัจจุบันต่อเนื่องไปถึงหนึ่งไตรมาส จะทำให้ประมาณการกำไรของ GFPT (GFPT.BK/GFPT TB) มี downside 17% และของ CPF มี downside 11% อย่างไรก็ตาม ผลกระทบอาจจะน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทจะสามารถส่งผลต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปให้ลูกค้าได้มากแค่ไหนและเร็วแค่ไหน เราคิดว่า CPF มีความสามารถที่จะส่งผ่านต้นทุนได้มากกว่า GFPT เนื่องจากมีอำนาจทางการตลาดสูงกว่า ในอีกด้านหนึ่ง ธุรกิจร้านอาหารน่าจะสามารถส่งผ่านต้นทุนได้มากกว่าหุ้นในกลุ่มย่อยอื่นๆ ซึ่งบางบริษัทได้เริ่มปรับราคาขายไปเรียบร้อยแล้ว

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการส่งออกจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโต

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนรายได้ของบริษัทกลุ่มอาหารในปี

2565F เนื่องจากเราคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวถึง 4.3% จากเพียง 0.3% ในปี 2564 อย่างไรก็ตาม เรามองว่าแนวโน้มการเติบโตเหมือนจะแผ่วลงกว่าที่คาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เพราะกำลังซื้อที่ลดลงอาจจะกระทบกับอุปสงค์ของสินค้าอาหาร ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าอุปสงค์การส่งออกจากตลาดเอเชียจะยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มอย่างเช่น Sunsweet (SUN.BK/SUN TB) และ RBF อย่างไรก็ตาม เรายังมีมุมมองที่ระมัดระวังกับเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากรณีพิพาทกับรัสเซีย ในขณะเดียวกัน การที่บางบริษัทในกลุ่มขยายกำลังการผลิต (SUN และ GFPT) และขยายสาขาร้านใหม่ (Zen Corporation Group (ZEN.BK/ZEN TB)) จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนการเติบโต ในขณะเดียวกัน RBF จะได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์ใหม่จากกัญชง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทำรายได้ให้บริษัทใน 1Q65

Valuation & Action

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอาหารที่ Neutral เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่ที่เราศึกษาอยู่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้จากฐานกำไรที่เป็นพิเศษในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นกับอัตรากำไร และกำลังอยู่ระหว่างประเมินความรุนแรงของผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอยู่ เราเลือก SUN เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ จากประเด็นการขยายกำลังการผลิต, GPM ที่เพิ่มขึ้นจาก product mix, และราคาหุ้นที่ไม่แพง

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, เกิดโรคระบาด, ต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้น, Supply chain สะดุด

- Advertisement -