สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway ในกรอบแคบ +,- 4 จุด มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล อย่าง RAM, THG, BDMS, VIBHA และกลุ่มท่องเที่ยวท่ีได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 คือปรับมาตรการก่อนเข้าไทยไม่ต้องตรวจ RT-PCR แต่เข้ามาแล้วตรวจ 1 คร้ัง หุ้นท่ีได้ประโยชน์ เช่น CENTEL, MINT, ERW, SPA ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,678.51 จุด -3.25 จุด -0.19% มูลค่าการซื้อขาย 98,135 ลบ. ต่างชาติ -2,234.60 ลบ. TFEX +3 สัญญา ตราสารหน้ี +94.07 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 274.17 จุด +0.80% สัปดาห์ท่ีผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ พุ่งข้ึน 5.5% ดัชนี Nasdaq พุ่งข้ึน ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวข้ึนมากหลังการเจรจาระหว่างปธน.โจ ไบเดนของสหรัฐและปธน.สี จิ้นผิง ของจีนเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนส้ินสุดลง โดยไม่มีเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมากแต่อย่างใด

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ +1.7% ปิดท่ี 104.70 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 4.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน จากความวิตกเก่ียวกับภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน หลังจากรัสเซียถูกคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมัน

+ ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าช้ันดี (LPR) สวนทางนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีน อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการท่ีรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้น และอีกหลายเมือง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

+ ปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีนให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดผลกระทบทางเศรษฐกิจท่ีเกิดจากการใช้มาตรการต่อสู้กับโรคโควิด-19

+ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำของจีนกล่าวว่า วิกฤตการณ์ในยูเครนจะไม่ก่อให้เกิด ประโยชน์ต่อฝ่ายใด พร้อมกับเรียกร้องให้จีนและสหรัฐร่วมแบกรับความรับผิดชอบเพื่อสันติสุขของโลก

+ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 5 เดือนของปีงบประมาณ 65 ว่าสามารถ จัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายกว่า 46,000 ล้านบาท

ปัจจัยลบ

– นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียอาจหันไปเล่นงานประเทศมอลโดวาเป็นเป้าหมายต่อไป  หลังจากการใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครนล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แล้ว

– สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ลูกจากฐานยิงตกลงในทะเลเหลือง โดยเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อแสดงแสนยานุภาพทางการทหารท่ีเพิ่มความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

– ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลจัดส่งระบบป้องกันขีปนาวุธให้กับยูเครน เพื่อช่วยให้ยูเครนสามารถป้องกันการโจมตีทางอากาศจากรัสเซียได้

– กระทรวงพาณิชย์เตรียมรับมือผลกระทบสงครามรัสเซียกับยูเครน สถานการณ์ของแพง-ขาดตลาด เตือนผู้ส่งออก ชะลอขายของให้รัสเซียลดความเสี่ยง

– ที่ประชุมกบง. เห็นชอบให้ทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นเดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม  ตั้งแต่ วันท่ี 1 เม.ย.น้ี

+/- ศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มอีก 23,441 ราย ATK 15,177 ราย เสียชีวิต 88 คน หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 23,153 ราย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังติดตามสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอย่าง ใกล้ชิด ขณะทปี่ระเด็นบวกในประเทศศบค.ชุดใหญ่ผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศแบบ Test&Go ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,670-1,690 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
  • กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และ กากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
  • ศบค. ชุดใหญ่ผ่อนคลายมาตรการ Test&Go : AOT ERW CENTEL MINT AWC
  • กพพ.ขึ้นค่า FT : GPSC BGRIM EGCO

หุ้นรายงานพิเศษ

กลุ่มสินค้า IT

  • คาดได้แรงหนุนระยะสั้นจากงาน COMMART THAILAND 2022 ซึ่งงานจะเริ่มในวันท่ี 31 มีนาคม – 3 เมษายน 2565
  • คาดหุ้นที่ได้ประโยชน์ IT Bloomberg Consensus – บาท, SVOA Bloomberg Consensus – บาท, CPW Bloomberg Consensus 5.05 บาท, SPVI Bloomberg Consensus 7.70 บาท, COM7 Bloomberg Consensus 48.75 บาท

หุ้นมีข่าว

(+) WHA (Bloomberg Consensus 4.10 บาท) ทุ่ม 4 พันล้านบาท ลุยธุรกิจดิจิทัลใน 5 ปี สู่การเป็น Tech Company ล่าสุดผนึกโรงพยาบาลสมิติเวช เซ็นเอ็มโอยูศึกษาธุรกิจดิจิทัลเฮลธ์แคร์ หวังยกระดับการเข้าถึงบริการและโซลูชันการดูแลสุขภาพผ่านแพลตฟอร์ม WHAbit พร้อมส่งซิกจ่อบุ๊กกำไรจากการขายดาต้าเซ็นเตอร์ มูลค่า 500 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2565 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IMH (Bloomberg Consensus 28.02 บาท) เตรียมเปิดศูนย์พักคอยเพิ้มอีก 300 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มียอดพุ่งทำนิวไฮรายวัน ฟากผู้บริหารเผยปัจจุบันเตียงให้บริการเต็มแล้ว คาดจำนวนผู้ป่วยพีคสุดช่วงเดือนพฤษภาคม แย้มมีดีลควบรวมกิจการโรงพยาบาลอีก 1 แห่ง คาดสรุปภายในไตรมาส 3 นี้ พร้อมต้ังเป้ารับทรัพย์ชุดตรวจ ATK ที่ 50 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JR (Bloomberg Consensus 10.00 บาท) ส่งซิกครึ่งแรกปี 2565 ฟอร์มแจ่ม แบ็กล็อกเรียงคิวบุ๊กอื้อ แถมลุยประมูลงานใหม่มูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท เติม Backlog เพิ่มจากเดิมมีอยู่ 4.6 พันล้านบาท รับรู้ยาวถึงปี 2566 แจงทองแดงพุ่งไม่กระทบธุรกิจ แถมแย้มดีลร่วม EA ลุยแท่นชาร์จยักษ์ คาดชัดเจนไม่เกินไตรมาส 2/2562 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) S (Bloomberg Consensus 2.35 บาท) S ต้ังเป้ารายได้ปี 2565 เติบโตเป็น 2 เท่า ประมาณ 13,000-14,000 ล้านบาท ชูธุรกิจอสังหา-โรงแรมฟื้นตัวชัดเจน เล็งเปิดโครงการแนวราบ 3 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ด้านธุรกิจโรงแรมมีอัตราเข้าพักเพิ่มข้ึน เล็งขายสินทรัพย์เข้ากองรีทในไตรมาส 3/2565 ส่วนธุรกิจนิคมตั้งเป้ายอดขายท่ีดิน 150 ไร่ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
  • สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
  • 30 มี.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2565
  • 31 มี.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 18 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2565

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 21 มี.ค. ธนาคารกลางจีนกําหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR
  • 23 มี.ค. สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 24 มี.ค. ผู้นํานาโตจัดประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการที่รัสเซียส่งกําลังทหารบุกโจมตียูเครน

อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต

สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.พ. ดุลบัญชีเดินสะพัด 4Q64 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนมี.ค. จากมาร์กิต

- Advertisement -