UPA ไฟเขียวทุ่มงบเข้าลงทุนเพิ่ม 100% ในสินทรัพย์ดิจิทัล และการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโทเคอร์เรนซีใน สปป.ลาว ผ่านบริษัทร่วมทุน UPA และ Asia Investment and Financial Services Sole Company Limited วงเงินมูลค่า 820 ล้านบาท ระบุการเข้าลงทุนเพิ่มหวังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจ พร้อมลุยติดตั้งเพิ่มอีก 4,000 เครื่องภายในเดือนเมษายนนี้ตามแผน ทั้งได้รับสิทธิในการใช้ใฟฟ้าเพื่อประกอบธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซีอีกจำนวน 20 เมกกะวัตต์ มั่นใจผลักดันผลงานปี 65 โตก้าวกระโดด

 

นายกวิน เฉลิมโรจน์  ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนเพิ่มวงเงิน 820 ล้านบาท ในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโทเคอร์เรนซี หรือการขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Mining) ที่ สปป.ลาว) ประเภทโรงงานและเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี (Plant Company) โดยลงทุนผ่านบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศสิงค์โปร์ในฐานะ holding company (Singapore Holding for Plant Company) โดยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนในสัดส่วน 100%

ทั้งนี้ Plant Company จะเข้าทำสัญญาบริหารจัดการเหมือง (Crypto Mining Management Agreement) กับ Operating Company หรือ Lao Crypto Mining Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตสำหรับการทำธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี และเป็นบริษัทที่บริษัทลงทุน 50% ผ่านบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงค์โปร์ในฐานะ holding company และ AIF Digital Asset Holding Sole Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งใน สปป.ลาว ร่วมกับ AIFGroup Sole Co., Ltd. (AIF) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม AIF Group ตามที่ได้รับอนุมัติไปก่อนหน้านี้  นอกจากนี้ AIF ยังได้รับสิทธิในการใช้ใฟฟ้าเพื่อประกอบธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซีอีกจำนวน 20 เมกกะวัตต์ อีกด้วย

สำหรับการเข้าลงทุนเพิ่ม เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนของการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์  และจะทำให้บริษัทก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มผลักดันอนาคตเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด อีกทั้งจะเป็นการต่อยอดจากธุรกิจพลังงาน

ด้านเม็ดเงินลงทุนดังกล่าว จะมาจากเงินเพิ่มทุนที่ได้จากการจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) เงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศ และรายได้ที่เกิดจากการขุดเหรียญบางส่วนก่อนหน้านี้

“อยากสื่อสารให้ทุกคนรับรู้ว่า การลงทุนหรือการเข้าถือหุ้นในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นเจตนาที่จะให้เห็นว่า บริาทมีความตั้งใจทำธุรกิจอย่างจริงจัง และเพื่อสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ติดตั้งเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซีแล้วเสร็จจำนวน 400 เครื่อง พร้อมดำเนินการขุดคริปโทเคอร์เรนซี สามารถรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 1/65 และจะทยอยติดตั้งอีก 4,000 เครื่องภายในเดือนเมษายนนี้ โดยจะสามารถรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 2/65” นาย กวิน กล่าว

ทั้งนี้ มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 306.56 ล้านบาท โดยคาดว่าธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นธุรกิจที่มีความสามารถในการทำกำไรในระดับสูง และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นรายได้หลักบริษัทในปีนี้

******

- Advertisement -