Daily Focus Value and Domestic Play

2022 SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index แกว่ง Sideways พักฐานระยะสั้นตามคาด ปิดลบเล็กน้อย 4.64 จุด โดยขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น ประกอบกับดัชนี Rebound ขึ้นได้ค่อนข้างดีในสัปดาห์ก่อนหน้า สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.5 พันลบ. และ 938 ลบ. ตามลำดับ (สถานะใน SET50 Index Futures ไม่มีนัยยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้: เราคาด SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,668 1,680 จุด โดยกลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่นคาดว่ายังพยุงตลาดได้ตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น หลัง EU กำลังพิจารณาเข้าร่วมสหรัฐฯในการคว่ำบาตรการใช้น้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่ประธาน FED แสดงความกังวลต่อเงินเฟ้อที่ยังสูงเกินไป พร้อมระบุว่า FED พร้อมขึ้นดอกเบี้ย 0.5% หากจำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทำให้ Bond Yield พุ่งขึ้นต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันยังคงสอดคล้องกับกลยุทธ์ของเราที่เน้นหุ้น Value และ Domestic Play ซึ่งทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของ FED ที่ตึงตัวได้แข็งแกร่ง รวมถึงได้อานิสงส์จากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศตามการผ่อนคลายมาตรการ กลุ่มที่เราชอบยังคงเป็น ธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น

กลยุทธ์: เน้นลงทุนในกลุ่ม Value และ Domestic Play ที่กระทบจากปัจจัยต่างประเทศจำกัด และได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : BDMS, CPALL, OSP, PJW, TOP

หุ้นเด่นวันนี้ : PJW

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6 บาท
  • เราคาดแนวโน้มการเติบโตปี 2022 ยังสดใส ทั้งธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ฟื้นตัว รวมถึงจะเห็นพัฒนาการที่ชัดเจนขึ้นในการ Diversify ไปยังพลาสติกทางการแพทย์ ซึ่งแนวโน้มเติบโตดีระยะยาว และมี Margin สูง
  • นอกจากนี้เราคาดว่า PJW มีศักยภาพและเตรียมรุกตลาดชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับ EVs ในเร็วๆนี้ เป็นบวกต่อการเติบโตระยะยาว และชดเชยการชะลอตัวของบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นได้ เราคาดกำไรปี 2022-2024 +15% CAGR
  • แนวรับ 4.64-4.60 บาท แนวต้าน 5//5.20 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก US$282 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$457 ล้าน  แต่เริ่มพลิกไหลเข้าไต้หวัน US$210 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินเริ่มพลิกไหลออก นำโดยไหลออกทุกประเทศ นำโดยอินโดนีเซีย US$40 ล้าน และมี พียงเวียดนามที่ไหลเข้า แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหล ออกจากความกังวลเงินเฟ้อ และ FED ระบุอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดหากจําเป็น

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังคงเป็นปัจจัย Overhang สินทรัพย์เสี่ยงให้ฟื้นตัวได้จำกัดจากผลกระทบของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในยูโรโซนที่ค่อนข้างหนัก ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯถูกกระทบเช่นกัน สะท้อนไปยังประมาณการ GDP ปีนี้ของ FED ที่ปรับลงเหลือ +2.8% ส่วนเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน และ Commodity อื่นที่เป็นต้นทุนการผลิต หนุนเงินเฟ้อเร่งตัว ทำให้ล่าสุดส่วนต่างผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 2 ปีของสหรัฐฯลดลงเหลือราว 0.2% ต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วง ก.พ.-มี.ค. 20 ก่อนวิกฤต COVID-19 ซึ่งเริ่มเป็นสัญญาณเตือนว่าต้องระมัดระวังมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ เราจึงยังคงมุมมองบวกต่อกลุ่ม Domestic Play มากกว่า Global Play และคาดฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในประเทศ หลัง Reopen และกระทบจากสงครามจำกัดมากกว่า

(+) KSL การประชุมวานนี้โทนบวก แม้ผลิตผลิตจากไทยและอินเดียจะเพิ่มขึ้นและคาด ทำให้ตลาดน้ำตาลโลกปีหน้าพลิกมาเกินดุล ซึ่งดูเป็นลบต่อราคาตาลระยะยาว แต่เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่สูง ทำให้บราซิลนำอ้อยไปผลิตเอทานอลมากขึ้น ประกอบกับสต๊อกน้ำตาลโลกยังต่ำ และค่าเงินเรียลบราซิลที่แข็งกระทบผู้ส่งออก จึงทำให้เราคาดว่า แนวโน้มราคาน้ำตาลในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าจะยังยืนระดับสูงก่อนปรับลงในระยะถัดไป เราคาดกำไรปี 2022 โตแรง +106% Y-Y จากทั้งปริมาณและราคาขายที่สูงขึ้น ยังคงราคาเป้าหมาย 4.70 บาท ปัจจุบันเทรด PBV เพียง 0.8 เท่า แนะนำ “เก็งกำไร”

(+) OISHI เราคาดกำไร 2Q22 (ม.ค มี.ค. 22) มีโอกาสปรับขึ้นเล็กน้อย Q-Q และโตสูง Y-Y ตามสถานการณ์ที่กลับมาปกติมากขึ้นหลังคลาย Lockdown ตั้งแต่ 1Q22 รวมถึงฐานต่ำปีก่อน แม้ราคาวัตถุดิบอาหารและบรรจุภัณฑ์เริ่มปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังมีสต็อกพอใช้ทั้งไตรมาส และเน้นบริหารจัดการอย่างเข้มข้น ทำให้ไม่มีการปรับขึ้นราคาในช่วง 1H22 อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองระมัดระวังต่อ 2H22 หากต้นทุนยังขึ้นต่อ อาจกระทบต่อ ความสามารถทำกำไรและต้องทยอยปรับขึ้นราคา เรายังคาดกำไรปี 2022 +111% Y-Y ซึ่งค่อนข้าง Conservative ขณะที่ฐานะการเงินแข็งแกร่งอย่างมาก คงราคาเป้าหมายที่ 53 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) CPANEL เราคาดว่าจะได้ประโยชน์จากตลาดอสังหาฯที่ฟื้นตัว ท่ามกลางแรงงานที่ขาดแคลน โดยเป็นปัจจัยเร่งความต้องการใช้ Precast ให้ขยายตัว ขณะที่การแข่งขันไม่รุนแรงและมีคู่แข่งน้อยราย ล่าสุดเห็นคำสั่งซื้อล่วงหน้า 1 ปี ส่วนต้นทุนที่ปรับตัวขึ้น สามารถส่งผ่านโดยใช้วิธี Cost Plus เราคาดกําไรปี 2022-2023 +59% CAGR คงราคาเป้าหมาย 9 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 201.94 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 34,552.99 จุด หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอยู่ในระดับที่สูงเกินไป และเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกเล็กน้อย หนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมัน และก๊าซ ท่ามกลางติดตามสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม หลังประธานเฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย และติดตามความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 7.42 ดอลลาร์ หรือ 7.09% ปิดที่ 112.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานข่าวว่ารัฐบาลของประเทศต่างๆใน EU กำลังพิจารณาว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่ติดตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,929.5 ดอลลาร์/ออนซ์ จากถ้อยแถลงของประธานเฟดส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,083.60 / +1.16

- Advertisement -