อาจผันผวนบ้าง แต่อย่าตกใจกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ จนเกินไป

ประธานเฟดส่งสัญญาณนโยบายการเงินตึงตัว อาจทำให้ตลาดผันผวน แต่ไม่ถึงขั้นน่ากังวล คืนที่ผ่านมาประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ต่อ national Association for Business Economics ซึ่งการแสดงความเห็นที่มีการถึงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสูงมากเกินไป (Inflation is much too high) อยู่ถึง 3 ครั้ง และเน้นย้ำถึงเสถียรภาพด้านราคา (Price stability) ทำให้หลังการแสดงความเห็น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงจากความคาดการณ์ว่าเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ย รวมถึง อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระดับ 0.50% ในการปรชุมบางครั้ง ความเคลื่อนไหวดังกล่าว อาจทำให้ตลาดระยะสั้นผันผวนบ้าง แต่เรามองไม่ควรกังวลจนเกินไปจาก

1) ผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปี ขยับขึ้นมาที่ 2.17% สะท้อนการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมที่เหลือทุกครั้งแล้ว (0.25% จำนวน 5 ครั้ง และ 0.5% จำนวน 1 ครั้ง)

2) เนื้อหาสำคัญในสุนทรพจน์พูดถึงความแข็งแกร่งของการจ้างงาน

3) การถดถอยทางเศรษฐกิจ (recession) ในสหรัฐฯ ไม่เคยเกิดในช่วงของการขึ้นดอกเบี้ย แต่เกิดหลังจากวัฏจักรของ การขึ้นดอกเบี้ยยุติลงแล้วระยะหนึ่ง ขณะที่ประธานเฟดมีบทเรียนจากอดีตในการที่จะพยายามทำให้เศรษฐกิจชะลออย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing) // ดังนั้นเรามองตลาดอาจผันผวน และไม่ได้ลงทุนง่ายเช่น 1-2 ปี ที่ผ่านมา แต่ตลาดหุ้นก็ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ต้องกังวลกับภาวะเศรษฐกิจจนเกินไป

ติดตามมาตการช่วยเหลือประชาชนจากการประชุมครม.วันนี้ เบื้องต้นคาดจะมีการออกมาตรการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจากราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้น ได้แก่

1) เงินอุดหนุนก๊าซหุงต้ม 100 บาท/ครัวเรือน 3 เดือน (จาก 45 บาท)

2) เงินช่วยเหลือค่าน้ำมันสำหรับจักรยานยนต์รับจ้าง

3) มาตรการช่วยเหลือค่าปุ๋ย และต้นทุนวัตถุดิบสำหรับเกษตรกร

4) มาตรการลดต้นทุนอาหารสัตว์ อาทิ ลดภาษีกากถั่วเหลือ 2%

ซึ่งภาพรวมมาตรการจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและการบริโภค เป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีก ขณะที่อาจเป็นปัจจัยบวกทางจิตวิทยาระยะสั้นกับกลุ่มผู้ผลิตเนื้อสัตว์

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มพลังงาน PTTEP, BANPU, TOP (เน้นโรงกลั่น)

2) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPAL, AP, SC, ASW

3) กลุ่มบันเทิง งบโฆษณาที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ บวกต่อ ONEE, BEC, WORK, MONO

4) หุ้นเก็งกำไรทางเทคนิค อาทิ WFX, CV, UBE, RAM, IND, MAKRO CPALL, JAS, BCP, AJ, PTL, PJW, III, TNP SAP

5) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, TU, GFPT, KSL

6) ค่าระวางเรือ PSL, TTA

7) น้ำมันลง SCC, PTTGC, BGRIM, GPSC, TASCO, AAV, EPG, SCGP, SFT

ภาพรวมกลยุทธ์: บรรยากาศเก็งกําไรโดยรวมยังเป็นบวกจากการเปิดประเทศรับการท่องเที่ยว และมาตรการดูแลค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ความเสี่ยงยูเครน-รัสเซีย ระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยยกระดับความขัดแย้งขึ้น  อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการปรับประมาณการหลังงบไตรมาส 1/65 ในอีก 1-2 เดือน เป็นสิ่งที่ต้องจับตา

หุ้นแนะนำ: TOP*, ICHI*, DTAC*, PMTA*

แนวรับ: 1,669-1,676 / แนวต้าน : 1,692-1,700 จุด สัดส่วน : เงินสด 50%:พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • S&P ปรับลดเรตติ้งธนาคารไทย – โดยปรับลดเรตติ้ง SCB, KBANK, KTB, TMB ลง 1 ขั้น ขณะที่คงเรตติ้ง BBL และ BAY ทั้งนี้สอดคล้องกับมุมมองของเราเมื่อ 17 มี.ค. ที่ให้ระวัง และแบ่งขายทำกำไรกลุ่มธนาคารบ้างในรอบนี้ โดยเราคาดผลกระทบของโอไมครอนและการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ (โดยเฉพาะ SME) อาจเป็นลบต่องบกลุ่มธนาคารในช่วงไตรมาส 1 และ 2 นี้ โดยมี top pick คือ BBL
  • TOP – เตรียมเสนอผู้ถือหุ้นขาย GPSC สัดส่วน 10.78% ให้ ปตท. มูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินรองรับแผนขยายธุรกิจปิโตรเคมี ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นหลังเข้าลงทุน CAP ในอินโดนีเซีย
  • BTS ศึกษาความเป็นไปได้ร่วมลงทุนโครงการระบบรถไฟฟ้ารางเบาในมาเลเซีย
  • BBIK – เปิดแผนรุกตลาดต่างประเทศ เริ่มจากอาเซียนต่อด้วยยุโรปและอเมริกา กระแสดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในภูมิภาคเอเชียนมาแรง พบดีมานด์ในการพัฒนาแอปเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์
  • Opportunity day- 22 มี.ค. ZIGA, MSC, TSR, SSP, WP, SAPPE, DUSIT / 23 มี.ค. THANA, AIMIRT, WINMED, SCN, KK, GRAMMY / 24 มี.ค. SHR, ZEN, MOONG, PAP, SISB, SELIC, CPF / 25 มี.ค. STECH, TPIPL, NNCL, HPT, ASK, DEMCO, TKT

ประเด็นติดตาม: 22 มี.ค. – ECB President Lagarde Speaks, Fed Chair Powell Speaks / 23 มี.ค. TH Trade Balance เดือน ก.พ., US New Home Sales เดือน ก.พ.

ประเด็นลงทุนสําหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร TOP* (65): ผลการดำเนินงานเข้า high season และค่าการกลั่นคาดจะสูงในช่วงเม.ย.จากการปิดซ่อมโรงกลั่นทั่วโลก ตัดขาดทุน 49 บาท
  • เก็งกำไร ICHI* (12.60): เก็งกำไรผลประกอบการเข้า high season ตัดขาดทุน 10.50 บาท
  • เก็งกำไร TRUE* (5.60): เก็งกำไรมูลค่าหุ้นที่มีโอกาสปรับเพิ่มจาก Synergy ของการควบรวม ตัดขาดทุน 4.84 บาท
  • เก็งกำไร PMITA* (17): เก็งกำไรธุรกิจปุ๋ยในเวียดนาม มีแนวโน้มได้รับผลบวกจากราคาปุ๋ยที่แพงขึ้น ตัดขาดทุน 13.80 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (21 มี.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอยู่ในระดับที่สูงเกินไป และเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ (21 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน  ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังคงถ่วงบรรยากาศการซื้อขายทั่วโลก (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ปิดทำการเนื่องในวัน Vemal Equinox

ตลาดน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WII) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 7% ในวันจันทร์ (21 มี.ค.) หลังมีรายงานข่าวว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียตามรอยสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตา รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ (อินโฟเควสท์)

TOP

เตรียมเสนอผู้ถือหุ้นขาย GPSC สัดส่วน 10.78% ให้ ปตท. มูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินรองรับแผนขยายธุรกิจปิโตรเคมี ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นหลังเข้าลงทุน CAP ในอินโดนีเซีย

BTS

ศึกษาความเป็นไปได้ร่วมลงทุนโครงการระบบรถไฟฟ้ารางเบาในมาเลเซีย

BBIK

เปิดแผนรุกตลาดต่างประเทศ เริ่มจากอาเซียนต่อด้วยยุโรปและอเมริกา กระแสดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในภูมิภาคเอเชียนมาแรง พบดีมานด์ในการพัฒนาแอปเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์

“พาวเวล” ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25%

ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินเฟ้อ

Report & Corporate News

DTAC Maintained HOLD TP : 52.00 บาท

เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q22 จะดีขึ้น qoq เนื่องจากไม่มีการบันทึกการตัดจำหน่ายสินทรัพย์เพียงครั้งเดียว ใน 4Q21 ปัจจัยหนุนหลักคือรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ที่แนะนำให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติการควบรวม TRUE/DTAC เรามีบทสมมติกรณี best-case ว่า synergetic benefits อยู่ที่ 100 พัน ลบ. สำหรับดีลการควบรวมกิจการนี้ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นส่วนใหญ่สะท้อนถึงปัจจัยบวกแล้ว คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายใหม่: 52.00 บาท ราคาเข้าซื้อ: 44.00 บาท

PRM

บริษัทฯ มีแผนงานขยายฐานลูกค้าและเส้นทางให้บริการขนส่งไปยังประเทศจีนและอินเดียเพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้ ตามภาพรวมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชียที่ขยายตัวขึ้น ทำให้ความต้องการใช้เรือขนส่งปิโตรเคมีในภูมิภาคนี้เพิ่มสูงขึ้น จากเดิมที่ให้บริการขนส่งแก่ผู้ประกอบการในประเทศไทย มาเลเซีย และเวียดนาม (อินโฟเควสท์)

NUSA

ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้มีประกันของบริษัท 2 ชุด รวมมูลค่าไม่เกิน 450 ล้านบาท เสนอขายให้แก่ ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ มีบล.เคทีเอ็ม เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 18 เม.ย. – 18 พ.ค. (อินโฟเควสท์)

ARROW

บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 ที่ราว 1,200 ล้านบาท จากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้ 1,089.87 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทตุนงานในมือ (Backlog) ราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งยอมรับว่าในปีนี้อุตสาหกรรมก่อสร้างยังคงชะลอตัวอยู่ ซึ่งมีสัดงานก่อสร้างหลักจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการเบิกจ่ายของภาครัฐ ในโครงการต่างๆ ด้านโครงการที่อยู่อาศัยยังคงชะลอตัวอยู่ เนื่องจากปัจจุบันยังมีโครงการที่เพียงพอต่อ ความต้องการอยู่ (อินโฟเควสท์)

- Advertisement -