บล.พาย:

บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) คาด KSL ได้อ้อยสูงกว่าที่เคยประเมินไว้

FY1Q22 กำไร 332 ลบ. (+8% YoY, +123% QOQ)

KSL รายงานกำไรสุทธิ FY1Q22 (พ.ย 21.- ม.ค.22) อยู่ที่ 332 ลบ. (+8%YoY, +123%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจะมีกำไรปกติ 329 ลบ. (+5%YoY และพลิกจากที่ขาดทุน 131 ลบ. ใน FY4Q21) ได้รับผลดีจากปริมาณและราคาขายน้ำตาลที่เพิ่มมาก รายได้อยู่ที่ 3,426 ลบ. (+95%YoY, +9%QoQ) มีปริมาณขายน้ำตาลจำนวน 155,866 ตัน (+100%YoY, -5%QoQ) ราคาเฉลี่ยน้ำตาลที่ 16,593 บาท/ตัน เพิ่มขึ้น 8%YoY และ 1%QoQ ยังเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นน้ำตาลที่ยกมาจาก FY4Q21 ส่วนธุรกิจไฟฟ้ามีปริมาณขายเพิ่มขึ้น 15%YoY, 43%QoQ ราคาขายไฟฟ้า -4%YoY, -4%QoQ กำไรขั้นต้น 18% ลดลงจาก 23% ใน FY1Q21 แต่ดีขึ้นจาก 1% ใน FY4Q21 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 241 ลบ. (+33%YoY, -41%QoQ) ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 28 ลบ. (-77%YoY, -79%QoQ) เพราะไตรมาสก่อน BBGI มีกำไรพิเศษจากการนำหุ้น UBE เข้าจดทะเบียนในตลาดกว่า 200 ลบ. ดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 102 ลบ. (-0.2%YoY, -7%QoQ)

ประเมินนํ้าตาลโลกเกินดุลเพิ่ม

แนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำตาลโลกสำหรับฤดูกาล 22/23 มีการประเมินใหม่ว่าดุลน้ำตาลจะเกินดุลเพิ่มเป็น 2.45 ล้านตัน จากเดิมที่คาดไว้เพียง 1 ล้านตัน โดยปรับเพิ่มผลผลิตจากอินเดียขึ้นเป็น 33.3 ล้านตัน จากเดิมตอนต้นปีคาดไว้เพียง 31.5 ล้านตัน ส่วนบราซิลและไทยคาดไว้เท่าเดิมที่ระดับ 34 ล้านตัน (+7%YoY) และ 9.4 ล้านตัน (+28%YoY) ตามลำดับ ทั้งนี้สิ่งที่ต้องติดตาม คือ ผลผลิตจากบราซิลที่จะเริ่มหีบอ้อยในเดือน เม.ย. ว่าจะเป็นเช่นใด โดยปัจจัยบวกอยู่ที่ผลผลิตอาจจะออกมาต่ำกว่าคาดหรือเกษตรกรนำอ้อยไปผลิตเป็นเอทานอลเพิ่ม หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยราคาน้ำตาลที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะเห็นผลในผลประกอบการปี FY23 เป็นต้นไป เนื่องจากผลประกอบการปี FY22 KSL มีการขายล่วงหน้าไปแล้วมากกว่า 95%

คงประมาณการเดิมไว้ก่อน

KSL คาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบในปีนี้ที่จะสูงถึง 6.5 ล้านตันอ้อย (เพิ่มจากเดิมที่คาดไว้ว่าจะได้ 6.1 ล้านตันอ้อย และเทียบกับ 4.8 ล้านตันอ้อยในปี 21) ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำตาลที่จะขายในปีนี้เพิ่มขึ้นมาก เป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการในปีนี้ และจะเริ่มเห็นในช่วง FY2Q22 เป็นต้นไป ดังนั้นเราจึงคงประมาณการเดิมทั้งกำไรที่ 1,225 ลบ. (+99%YoY) และรายได้ที่ 14,324 ลบ. (+37%YoY) ไปก่อน โดยกำไรสุทธิในงวด FY1Q22 คิดเป็นสัดส่วน 27% ของกำไรทั้งปีที่คาดไว้ สำหรับคำแนะนำการลงทุน เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม เนื่องจากปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการที่ประเมินว่าจะเติบโตอย่างมาก แต่แนะนำให้เป็นในรูปแบบเก็งกำไรระยะสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังมีแรงกดดันจากอุตสาหกรรมน้ำตาลที่อยู่ภาวะเกินดุลเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานท่ี 4 บาท (14.5XPER’22E)

 

- Advertisement -