SSP เดินหน้าตามแผน ลุยซื้อกิจการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ หวังกุมกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ภายในปี 67 ดันผลงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ขณะที่ผลงานปีนี้ มั่นใจรายได้โตเกิน 20% หลังปิดดีล M&A วินด์ฟาร์ม 45 เมกะวัตต์ ในจังหวัดมุกดาหาร จ่อรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 1/65 แผยยังมีอีกหลายดีลในมือที่อยู่ระหว่างการเจรจา คาดเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ ด้านผลการประชุมบอร์ดมีมติอนุมัติจ่ายหุ้นปันผล พ่วงเงินสด กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 พฤษภาคมนี้

 

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า แผนการดำเนงานปีนี้ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาดีล M&A ร่วมกับพันธมิตรในหลายโครงการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ ซึ่งมั่นใจว่าจากแผนการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยสนับสนุนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เปิดดำเนินงานแล้ว 241.5 เมกะวัตต์ และวางเป้าหมายเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ภายในปี 2567

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์  LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ เตรียมจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงไตรมาส 2/67  ส่วนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเฟส 2 ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างขั้นตอนทำการศึกษาและรอความชัดเจนจากภาครัฐของเวียดนาม

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้เข้าซื้อหุ้น “วินชัย” จำนวน 25% จาก Qian Xing Long มูลค่า 752 ล้านบาท ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ในจังหวัดมุกดาหาร มีสัญญา Adder ที่ 3.5 บาทต่อหน่วย (กิโลวัตต์ชั่วโมง) เป็นระยะเวลา 10 ปี ขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 และเตรียมรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 1/65

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2564 กลุ่มบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สามารถสร้างรายได้และกำไรสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกิจการ โดยมีรายได้รวม 2,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,935 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 736 ล้านบาท ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 2,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน

จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น ในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0111111114 บาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 พฤษภาคม 2565

******

- Advertisement -