บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Siam Wellness Group (SPA) Omicron ขยายเวลาให้สะสมหุ้น
Company Update
ประเด็นการลงทุน
เราคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสม DCF ปรับลงมา 7.8% เป็น 8.20 บาท/หุ้น (อิง WACC 10.0%, g 4.0%) แม้ภาพการฟื้นตัวยังคงเด่นชัดปีนี้ แต่การมาของ Omicron ที่เหนือความคาดหมายใน 1Q65 ทำให้การจะเริ่มมีกำไรใน 2Q65 คาดจะล่าช้าออกไป ส่งผลให้เราปรับประมาณการปีนี้ลงมา โดยเรามองว่าการกลับมาของ นักท่องเที่ยวจีนได้ใน 4Q65 จะเป็น upside risk ของประมาณการ ขณะที่ระหว่างรอการฟื้นตัวนี้ ผู้บริหารเผยว่าได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินในการเลื่อนชำระเงินต้นออกไป 1 ปี ขณะที่ D/E 1.04x ยังอยู่ในเงื่อนไขเงินกู้ รวมถึงยังมีหลักประกันเงินกู้เหลือสนับสนุนได้อีกจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งหากไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ ผบห.มองว่า SPA ไม่จำเป็นต้องเรียกเพิ่มทุนแต่อย่างใด
แนวโน้มปี 2565 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น แต่ Omicron ทำกำไรจะมาช้าลง
จากเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติของทางการที่ 6 ล้านคนปีนี้ เทียบกับ 4.3 แสนคนปีก่อน ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวยังคงอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ดี เป้าหมายนี้ก็ยังคงห่างไกล -84% จากภาวะปกติที่ 39 ล้านคนในปี 2562 ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมโอกาสจากนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในมาตรการเข้มงวด Zero CQVID อย่างไรก็ดี จากการแพร่ระบาดของ Omicron รอบใหม่ในประเทศ ก็เร่งจำนวนผู้ติดเชื้อจาก 3 พันราย/วัน ในเดือน ธ.ค. 2564 เป็น 20,000 ราย/วัน ในเดือน มี.ค. 2565 ขณะที่จำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบโดสก็เริ่มนิ่งที่อยู่ที่ 69.4% (ที่มา กรมควบคุมโลก) ดังนั้นจากสถานการณ์เหล่านี้ เป้าหมายของเราที่จะเห็น SPA กลับมามีกำไรใน 2Q65 จึงมองว่ายังเป็นไปได้ยาก ซึ่งผู้บริหารได้เผยอัตราการให้บริการ 1Q65 อยู่ที่ 40-50% ยังห่างจากจุดคุ้มทุนที่ 60-70%
ปรับประมาณการลง
เราปรับประมาณการปี 2565 ลงเป็นขาดทุน -120 ลบ. จากก่อนหน้าคาดกำไรที่ 108 ลบ. โดยประมาณการนี้ถึงกับตัวเลขนักท่องเที่ยว 6 ล้านคนของทางการ และโครงสร้างรายได้จะมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10-30% (ยังไม่รวมนักท่องเที่ยวชาวจีน) โดยเรามองว่านักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสจะเริ่มกลับมาในปี 2566 ซึ่งจะพาให้ SPA กลับมามีกำไร 125 ลบ. ได้
ความเสี่ยง
กลุ่มลูกค้าจีน ยังคงเป็นกลุ่มสำคัญสำหรับการพา SPA กลับสู่เส้นทางทำกำไรได้เร็วหรือช้ากว่าคาด โดย upside risk ของประมาณการคือ การกลับมาภายใน 4Q65