อาจกลับมาเผชิญแรงทำกำไรระยะสั้นหลังไม่ผ่าน 1,680

  • หลายปัจจัยทำให้ตลาดระยะสั้นอาจมีแรงขายทำกำไร

1) การเจรจาสันติภาพที่ยืดเยื้อ และความเห็นจากที่ปรึกษาประธานาธิปดียูเครน ที่มองการเจรจาเผชิญความยากลำบาก

2) การเยือนยุโรปของประธานาธิปดี ไบเดน อาจเห็นความพยายามยกระดับการคว่ำบาตรรัสเซีย

3) รัสเซียมีแผนขายน้ำมันให้ชาติที่ไม่เป็นมิตรในสกุลเงินรูเบิล ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาอุปทานน้ำมันหายไปจากตลาด ทำให้ราคาน้ำมันกลับมาปรับสูงขึ้น ซ้ำเติมสถานการณ์เงินเฟ้อ

4) การทยอยแสดงความเห็นของกรรมการเฟดในวาระต่างๆ ส่งผลให้ตลาดเริ่มเพิ่มคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) งวดต่อไป 3-4 พ.ค.65 อาจเห็นการขึ้นดอกเบี้ยในระดับ 0.50% ซึ่งปัจจัยข้างต้น รวมถึงการที่ SET Index ไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1,680 จุด  ทำให้มีโอกาสที่จะเผชิญแรงทำกำไร โดยมีแนวรับที่ 1,669 และ 1,660 จุด

  • หุ้นเก็งกําไรอาจลดความร้อนแรง แต่ยังเลือกเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็กรายตัวได้ ตลท.ประกาศมาตการกำกับการซื้อขายใหม่ที่เข้มข้นขึ้นจากเดิม มีผล 4 เม.ย.65 โดยนอกจากการวางเงินสด 100% (cash balance) ในระดับ 1 จะเพิ่มการห้ามนําหลักทรพัย์ดังกล่าวมาคำนวณวงเงินซื้อขาย, ระดับ 2 จะเพิ่มการห้าม Net settlement และในระดับ 3 จะเพิ่มการหยุดพักการซื้อขาย 1 วัน (เฉพาะวันแรก) โดยมาตรการแต่ละระดับจะมีระยะเวลาครั้งละ 3 สัปดาห์ มาตรการข้างต้นอาจทำให้บรรยากาศเก็งกําไรในหุ้นขนาดเล็กที่ไม่มีพื้นฐาน หรืออยู่ในการกำกับดูแล (T1-T3) อาจชะลอลง อย่างไรก็ตาม หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีปัจจัยหนุน หรือปัจจัยบวกเฉพาะตัว ยังสามารถเก็งกำไรได้
  • ก.ล.ต.ห้ามใช้สินทรัพย์ดิจิทัลชำระค่าสินค้าและบริการ เพื่อไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลนำมาใช้เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยน สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ให้บริการอยู่แล้วต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามเกณฑ์ในเวลา 30 วัน ตั้งแต่ 1 เม.ย.65 มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะกระทบทางจิตวิทยากับบริษัทจดทะเบียนที่มีแผนนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ในวงกว้าง หรือเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยน ซึ่งเราคาดหลายบริษัทจะปรับรูปแบบใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบของแต้มหรือคะแนน ให้อยู่ในระบบนิเวศน์ของตัวเอง ซึ่งจะทำให้ไม่อยู่ในข้อบังคับของก.ล.ต. ดังนั้นเราคาดผลกระทบจริงต่อบริษัทจดทะเบียนอย่าง RS, JMART มีจำกัด

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มพลังงาน PTTEP, BANPU, TOP (เน้นโรงกลั่น)

2) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPALI, AP, SC, ASW

3) กลุ่มบันเทิง งบโฆษณาที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ บวกต่อ ONEE, BEC, WORK, MONO

4) หุ้นเด่นไตรมาส 2/65 ที่เราชอบ ได้แก่ BBL, TIDLOR, CPN, OSP TRUE, ONEE, TOP และ IVL

5) ขณะที่หุ้นที่สามารถเลือกเก็งกำไรในช่วงนี้ ได้แก่ KCE, HANA, PJW, TTCL, THREL, BLA, IND, MAJOR, WORK, TH เป็นต้น

ภาพรวมกลยุทธ์: บรรยากาศเก็งกําไรโดยรวมยังเป็นบวก จากการเปิดประเทศรับการท่องเที่ยว และมาตรการดูแลค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ความเสี่ยงสำคัญจากการปรับประมาณการหลังงบไตรมาส 1/65 ในอีก 1-2 เดือน เป็นสิ่งที่ต้องจับตา

หุ้นแนะนํา: TOP*, SVI*, PJW*, PMTA*

แนวรับ: 1,669 / แนวต้าน : 1,685-1,692 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • แบงก์ชาติไฟเขียว SCBX ลงทุนบิทคับผ่านบริษัทลูก – ธปท.ไฟเขียว SCBX ลงทุน “บิทคับ แคปปิตอล” ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ได้ แต่ห้ามลงทุนโดยตรง พร้อมกำหนดเงินกองทุนแบงก์ใหญ่เข้าไปลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ต่ำกว่า 12% ขณะที่โฮลดิ้ง คอมพานี สามารถลงทุนเกิน 3% ของเงินกองทุนได้
  • EA – ทุ่มงบลงทุน 3 พันล้านบาท ซื้อกิจการ “สมาร์ทบัส” ต่อยอดธุรกิจการเดินรถไฟฟ้า สู่ธุรกิจ EV ครบวงจร เริ่มทยอยส่งมอบล็อตแรก 450-500 คัน ในช่วงครึ่งปีหลัง
  • PTTEP – ชนะประมูลแปลงสำรวจปิโตรเลียมอีกครั้งในมาเลเซีย ได้รับสิทธิใน “แปลงเอสบี 412” โดยนับเป็นแหล่งที่ 12 ในมาเลเซีย พร้อมวางแผนปี 65-66 ประเมินศักยภาพของแหล่งปิโตรเลียม
  • Opportunity day – 24 มี.ค. SHR, ZEN, MOONG, PAP, SISB, SELIC, CPF / 25 มี.ค. STECH, TPIPL, NNCL, HPT, ASK, DEMCO, TKT

ประเด็นติดตาม: 23 มี.ค. – TH Trade Balance เดือน ก.พ., US New Home Sales เดือน ก.พ. / 30 มี.ค. – การประชุม กนง., 31 มี.ค. – China Manufacturing PMI เดือน มี.ค.

ประเด็นลงทุนสําหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร TOP* (65) : ผลการดำเนินงานเข้า high season และค่าการกลั่นคาดจะสูงในช่วงเม.ย.จากการปิดซ่อมโรงกลั่นทั่วโลก ตัดขาดทุน 49 บาท
  • เก็งกำไร SM* (9) : เก็งกำไรเงินบาทอ่อน และโมเมนตัมผลประกอบการที่ดีขึ้น ตัดขาดทุน 7.90 บาท
  • เก็งกำไร PJW* (5.50) : เก็งกำไรธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีจากการเข้าสู่ธุรกิจพลาสติกที่ใช้ในการแพทย์ และแนวโน้มที่ได้ผลดีจาก EV ตัดขาดทุน 4.64 บาท
  • เก็งกำไร PMITA* (17) : เก็งกำไรผลดีธุรกิจปุ๋ยในเวียดนาม ตัดขาดทุน 14 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBIH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่าง ต่อเนื่องจะส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมผู้นำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อวางแผนกดดันรัสเซียให้ยุติการโจมตียูเครน (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพุธ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงิน เฟ้อ และผลกระทบจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 3% ในวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อหลังดอลลาร์แข็งค่า เทียบเยน โดยพุ่งขึ้นแตะระดับ 121 เยนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2559 (อินโฟเควสท์)

ตลาดน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% ในวันพุธ (23 มี.ค.) หลังมีรายงานว่าบริษัท แคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (Caspian Pipeline Consortium -CPC) ของคาซัคสถาน ระงับการส่งออกน้ำมัน เนื่องจากประสบความเสียหายจากพายุ (อินโฟเควสท์)

แบงก์ชาติไฟเขียว SCBX ลงทุนบิทคัวผ่านบริษัทลูก

ธปท.ไฟเขียว SCBX ลงทุน “บิทคับ แคปปิตอล” ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ได้ แต่ห้ามลงทุนโดยตรง พร้อมกำหนดเงินกองทุนแบงก์ใหญ่เข้าไปลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ต่ำกว่า 12% ขณะที่โฮลดิ้ง คอมพานี สามารถลงทุนเกิน 3% ของเงินกองทุนได้

ดีเดย์คุมคริปโต 1 เม.ย. นี้

กลต.ประกาศคุมเหรียญคริปโต เริ่ม 1 เม.ย.นี้ ห้ามนำไปชำระสินค้าและบริการ ขณะที่เหรียญ Popcoin JFIN รอดหมด โดยภาครัฐหนุนใช้ภายในระบบนิเวศเฉพาะของตัวเอง

EA

ทุ่มงบลงทุน 3 พันล้านบาท ซื้อกิจการ “สมาร์ทบัส” ต่อยอดธุรกิจการเดินรถไฟฟ้า สู่ธุรกิจ EV ครบวงจร เริ่มทยอยส่งมอบล็อตแรก 450-500 คัน ในช่วงครึ่งปีหลัง

PTTEP

ชนะประมูลแปลงสำรวจปิโตรเลียมอีกครั้งในมาเลเซีย ได้รับสิทธิใน “แปลงเอสบี 412” โดยนับเป็นแหล่งที่ 12 ในมาเลเซีย พร้อมวางแผนปี 65-66 ประเมินศักยภาพของแหล่งปิโตรเลียม

Report & Corporate News

AOT Maintained BUY TP : 72.00 บาท

เราคาดว่าผลขาดทุนของ AOT จะลดลง yoy และ qoq เป็น 3.3 พันล้านบาท (+10% yoy, +24% qoq) ใน 29FY22 ตรงกันข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่อาจขาดทุนเพิ่มขึ้น qoq เนื่องจากผู้ติดเชื้อ COVID 19 ที่เพิ่มขึ้นและการระงับนโยบาย “Test and go” ในขณะที่ AOT จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์หลักจากการ กลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 72.00 บาท

BAY

เปิดกลยุทธ์กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจ SME ปี 65 เดินหน้าสู่การเป็นธนาคารหลักสำหรับลูกค้าธุรกิจ SME มุ่งสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในทุกการก้าวผ่านสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยแผนกลยุทธ์ในการดูแลลูกค้า SME ผ่าน 3R ได้แก่ Resilient, Respond และ Rebuild for the Future โดยเน้นพัฒนาด้านดิจิทัลและนวัตกรรม อีกทั้งเดินหน้าเชื่อมต่ออาเซียนสร้างโอกาสธุรกิจเพื่อลูกค้า พร้อมเป็นพันธมิตรที่ลูกค้า SME ไว้วางใจ (อินโฟเควสท์)

SEAFCO

บริษัทรับงาน 6 โครงการใหม่ ในเดือนมีนาคม 2565 รวมค่างานก่อสร้างข้างต้นยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นเงินประมาณ 433,800,000 บาท (อินโฟเควสท์)

AP

แนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะสินค้าแนวราบ มีทิศทางการเติบโตที่ดี สะท้อนจากยอดขายโครงการเครือเอพีที่ได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง จนสามารถทำยอดขายสินค้าแนวราบได้แล้วกว่า 7,800 ล้านบาท (28 ก.พ. 65) หรือเติบโต 47% (อินโฟเควสท์)

- Advertisement -