บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Bangkok Chain Hospital (BCH.BK/BCH TB)* แนวโน้มสดใสในปี 2565

Event

ปรับเพิ่มประมาณการกําไรของ BCH

Impact

ผลประกอบการจะยังคงแข็งแกร่งใน 1Q65

กำไรสุทธิใน 4Q64 แข็งแกร่งเกินคาดที่ 2.48 พันล้านบาท (+791.2% YoY, -14.4% QoQ) ส่งผลให้กำไร สุทธิในปี 2564 อยู่ที่ 6.85 พันล้านบาท (+456.9% YoY) เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 1Q65 โดยจะได้แรงสนับสนุนจาก i) จำนวนผู้ป่วย COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์ Omicron (จาก 6,739 ราย/วัน ใน 4Q64 เป็น 11,330 ราย/วัน ใน 1Q65F) ii) จำนวนผู้ป่วยที่ไม่ใช่ COVID เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติ iii) รับรู้รายได้จากการฉีดวัคซีน Moderna iv) ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลใหม่สามแห่งแข็งแกร่งเกินคาดเนื่องจาก COVID-19 ระบาด และ v) จำนวนผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว เรามั่นใจว่ากำไรของ BCH ใน 1Q65 จะเติบโตอย่างมาก YoY เพราะกำไรสุทธิใน 1Q64 ดูปกติที่ 324 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้น เราจึงคาดว่า BCH จะมีกำไรสุทธิอย่างน้อย 2 พันล้านบาทใน 1Q65F (+517.3% YoY, -19.4% QoQ)

โครงการ “UCEP Plus” จะยังคงจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ผู้ป่วย COVID-19 ต่อไป

ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมเป็นต้นมา รัฐบาลได้ออกโครงการชำระค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วย COVID-19 แบบใหม่ที่ชื่อ UCEP Plus ซึ่งก่อนหน้านี้ ตลาดเป็นห่วงว่ารายได้ของโรงพยาบาลในส่วนที่เกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วย COVID-19 จะลดลง เพราะรัฐบาลจะไม่จ่ายค่ารักษาให้กับผู้ป่วยที่ไม่ค่อยมีอาการ (กลุ่มสีเขียว) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด แต่ปรากฏว่า ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวในโครงการ UCEP Plus มีสามทางเลือกในการรักษาพยาบาล i) กักตัวที่บ้านหรือที่โรงแรม (ภายใต้โครงการประกันสุขภาพทั่วหน้า) เบิกได้ไม่เกิน 12,000 บาท/แพ็คเกจ ii) hospitel (ภายใต้โครงการประกันสังคม) เบิกได้ 2,000 บาท/วัน และ iii) hospital ทางเลือก (จ่ายเองหรือประกัน) เบิกได้ 28,000 บาท/แพ็คเกจ นอกจากนี้ ผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการระดับปานกลาง (กลุ่มสีเหลือง) หรือมีอาการหนัก (กลุ่มสีแดง) เข้าเกณฑ์ UCEP Plus ที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY65-66F ขึ้นอีก 154.6% และ 42.6%

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY65F และ FY66F โดย i) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ YoY ขึ้นอีก 45.9% และ 9.1% ii) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นเป็น 45.0% และ 35.0% (จากเดิม 32.5%) เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น iii) ปรับลดสัดส่วน SG&A/รายได้ เหลือ 8.0 และ 7.0% (จากเดิม 11.5%) ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F และ 2566F เป็น 4.49 พันล้านบาท (-34.4% YoY) และ 2.69 พันล้านบาท (-40.1% YoY) ตามลำดับ

Valuation & Action

เราเลือก BCH เป็นหุ้นเด่นของเรา เนื่องจาก i) คาดว่าบริการที่ไม่เกี่ยวกับ COVID จะเติบโตในปี 2565 ii) จะได้อานิสงส์จากยอดผู้ติดเชื้อ Omicron ที่สูงใน 1H65 และ iii) platform ธุรกิจที่แข็งแกร่งทั้งในส่วนของผู้ป่วยไทยและต่างชาติ เรายังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 28.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.5% และ TG ที่ 3.0%)

Risks

COVID-19 ระบาด, เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่

- Advertisement -